Skip to content

เที่ยวสบาย 9Booking


U Jomtien Pattaya ( ยู จอมเทียน พัทยา )

U Jomtien Pattaya ( ยู จอมเทียน พัทยา )

U Jomtien Pattaya ( ยู จอมเทียน พัทยา )

วันนี้ผมจะพาเพื่อนๆ ไปพักผ่อนและเยือนที่นี่อีกครั้งครับ เป็นครั้งที่ 2 แล้วเนอะที่ผมได้มาที่นี่ ครั้งแรกนี่ถ้าจะให้ย้อนก็คงช่วงปี 2018 นั่นแหละที่ตัวโรงแรมเค้าเพิ่งเปิดใหม่ๆ จนมาถึงตอนนี้เชื่อมั้ยว่าบางคนยังเข้าใจผิดอยู่เลยว่า U Pattaya กับ U Jomtien Pattaya เป็นที่เดียวกัน ไหนๆ ก็อ่านมาถึงตรงนี้แล้วขอบอกเพื่อนๆ เลยนะครับว่าคนที่ละที่กันนะ แต่เครือเดียวกันนั่นแหละ U Pattaya จะออกแนวรีสอร์ท ส่วน U Jomtien Pattaya จะเป็นแนวโรงแรมสวยขนาดไม่ใหญ่ราคาน่ารัก

เอาหล่ะ เรามาเข้ารีวิวกันดีกว่าว่าตอนที่ไปรีวิวครั้งแรกช่วงโรงแรมเปิดใหม่ๆ ตอนนั้นยังไม่มีโควิด-19 เลยนะ กับ ณ ตอนนี้ที่เข้าสู่ยุคโควิด-19 แล้ว โรงแรมจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ตามไปชมกันเลย

     จุดเด่นที่ยังเป็นจุดไฮไลท์ที่บางโรงแรมยากจะทำ แต่ที่นี่ยังทำให้ก็คือ เช็คอินเวลาไหน เช็คเอ้าท์ได้เวลานั้น ถ้าจะให้ยกตัวอย่างแบบเข้าใจง่ายๆ ก็คือ ถ้าเราไปเช็คอินเลทอย่างไปถึงโรงแรม 17.00 น.วันรุ่งขึ้นเพื่อนๆ ก็จะเลทเช็คเอ้าท์ได้ 17.00 น. เพราะงั้นเราจะได้พักที่นี่ 24 ชม. เต็มๆ

     ถ้าให้พูดถึงภายในตัวโรงแรมทุกอย่างยังเหมือนเดิมแทบทุกอย่างนะ แต่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงนิดหน่อยอย่างเช่น จุดเด่นของที่นี่ตอนเช็คอินสามารถเลือกกลิ่นของสบู่ที่ชอบได้เลย แต่ด้วยสถานะการณ์โควิดตอนนี้อาจจะไม่เหมาะที่จะมานั่งเปิดแมสแล้วดมกลิ่นสบู่กันละเนอะ เอาเป็นว่าใครชอบกลิ่นไหนสามารถแจ้งกับทางโรงแรมได้เลยยังมีอยู่ครบทุกกลิ่น ส่วนหมอนที่ใช้นอน กับชา ก็ยังรีเควสหรือเลือกได้เหมือนเช่นเดิม

มาดูในส่วนของห้องพักกันก่อนเลยเนอะ เรียกว่าส่วนนี้ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย ยังคงเหมือนเดิม โดยทุกห้องสามารถเลือก ” เวลคัมดริ้ง ” ได้คนละ 1 อย่าง ไม่ว่าจะเป็นน้ำผลไม้ น้ำอัดลม นม น้ำแร่ หรือไม่กระทั่งเครื่องดื่มสายแอล ก็เลือกได้เช่นกัน

ห้องซูพีเรีย คือห้องเริ่มต้นของที่นี่ ห้องนี้ราคาถูกสุด ขนาดห้องก็จะกระทัดรัดนิดนึง แต่จอทีวีใหญ่นะ แถมบางห้องยังได้วิวทะเลอีกด้วย

ดีลักซ์ซีวิว ถือเป็นห้องไฮไลท์และเป็นห้องที่แขกรีเควสกันมากที่สุด เพราะตัวห้องและเตียงจะหันหน้าปะทะกับวิวทะเลแบบเต็มๆ ห้อง type นี้ตอบโจทย์สำหรับคนมาเป็นคู่และเป็นคู่แบบคู่รักกันด้วยนะ เพราะห้องน้ำที่นี่ไม่มีอะไรปิดบังสามารถมองเห็นกันได้เวลาอาบน้ำ

ดีลักซ์เตียงคู่  ห้องนี้จะไม่มีวิวทะเลให้เห็น ถ้าเห็นก็จะเห็นน้อยมากๆ แต่จุดเด่นของห้องนี้คือขนาดเนื้อที่ของห้อง คือจัดวางห้องได้แบบกว้างขวางมาก ไม่อึดอัด กว้างแบบเหลือๆ เลย ใครไม่ต้องการวิวอะไรมากมายแต่ชอบพื้นที่ใช้สอยในห้องก็ลองดูเป็นห้องนี้ดูนะ

ห้องสวีท คือห้องสูงสุดของที่นี่ ถึงจะขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็มีการจัดแบ่งห้องนั่งเล่นกับห้องนอนแบบชัดเจน ทีวี 2 เครื่องเลยทีเดียว ห้องน้ำก็มีเพียงกระจกกั้นเช่นกัน แต่ดูมิดชิดกว่าห้องดีลักซ์ซีวิวนะ

สระว่ายน้ำสวยเกินเบอร์

     สระว่ายน้ำของที่นี่ให้เป็นไฮไลท์ของโรงแรมนี้เลยก็ได้ฮะ เอาตรงๆ ถ้าดูจากขนาดของตัวโรงแรมที่ไม่ได้ใหญ่มากบอกเลยว่าตอนแรกไม่ได้คาดหวังกับสระว่ายน้ำเค้าเท่าไหร่ คือด้วยความจำกัดด้วยเนื้อที่เนอะเลยไม่คาดหวัง แต่อยากให้เพื่อนๆ ลองมาดูสระว่ายน้ำของที่นี่สักครั้งบอกเลยว่าเกินราคามาก ถึงจะไม่ได้กว้างใหญ่อะไรมากแต่ทำออกมาได้ถูกอกถูกใจสาวกโซเชียลที่ชอบอวดภาพแน่นอน คือวิวทะเลกว้างๆ เต็มๆ เลยจ้า วิวแบบ 180 องศาแถมยังเป็นจุดดูวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยไม่แพ้ใครเลยนะ

     ด้านบนนี้มีอะไรบ้าง ? สระว่ายน้ำที่ผมชอบมาก น้ำสระสีฟ้าๆ กระเบื้องหินอ่อนสีขาวๆ มันดูเข้ากันซะเหลือเกิน การออกแบบเรียกว่าดีไซน์ยุคใหม่ไม่เอ้าท์ ข้างๆ สระว่ายน้ำมี รูพท๊อปบาร์ที่นั่งสำหรับไว้สั่งเครื่องดื่มเย็นๆ หรือของทานเล่น แนะนำมานั่งตอนช่วงเย็นๆ ดูพระอาทิตย์จะตกนะดีที่สุด เพราะกลางวันร้อนอยู่

หรือช่วงบ่ายๆ ใครสาวก afternoon tea ที่นี่ก็มีบริการให้สั่งนะ ราคาถือว่าไม่แพงเลย 499 บาทเท่านั้น ใครไม่ได้มาพักที่นี่แต่อยากมานั่งที่สระด้านบนก็มาได้เช่นกันฮะ

หรือใครทานอาหารดูวิวพระอาทิตย์ตกก็สามารถจองโต๊ะกับทางโรงแรมไว้ได้เช่นกัน

สลัดเนื้อปู พร้อมน้ำสลัดส้มและเสาวรส ราคา 350 บาท สำหรับใครที่ชอบทานสลัดแบบมีกลิ่นและรสชาติสดชื่นของส้มและเสาวรส แถมมีความหอมหวานเฉพาะของเนื้อปู ต้องลอง

แซลม่อนแซ่บ วาซาบิ ราคา 290 บาท จานนี้ต้องสั่งด้วยประการทั้งปวง รสชาติจี๊ดจ๊าดมาก

สปาเก็ตตี้กุ้งแม่น้ำเพรสโตซอสและชีสพาเมซาน ราคา 380 บาท ตัวเส้นสปาเก็ตตี้หนึบนุ่มกำลังดี ผัดมาแบบกลมกล่อมเข้ากับชีสมากๆ ตัวกุ้งแม่น้ำไซส์ไม่ใหญ่แต่สดใช้ได้เลย

ห้องอาหาร Salt

     พามาดูห้องอาหารหลักของที่นี่กันต่อฮะ โดยอาหารเช้า กลางวัน ดินเนอร์ สามารถมาทานที่ห้องอาหารนี้ได้

โดยเฉพาะอาหารมื้อเช้าถ้าใครชอบมาทานแบบบุฟเฟ่ต์ตัวเลือกเยอะๆ ก็ต้องลงมาทานที่ห้องอาหารนี้แหละนะ แต่เวลาก็จะจำกัดตามปกติของโรงแรมทุกๆ โรงแรมเนอะ ส่วนมากจะ 10.30 น.- 11.00 น. ไลน์อาหารก็เริ่มปิดละ

แต่จุดเด่นของที่นี่ก็คือ สามารถเลือกอาหารเช้าเสิร์ฟที่ไหนก็ได้ภายในโรงแรม และเวลาไหนก็ได้จนถึง 22.00 น. อันนี้คือเหมาะกับเพื่อนๆ ที่อยากจะมาพักผ่อนแบบไม่ต้องพะวงรีบตื่นมาเพื่อกินข้าวเช้าไม่งั้นไม่ทัน แจ้งโรงแรมได้เลยฮะว่าเราจะให้เสิร์ฟตอนเวลาไหนที่ไหนก็ได้ อย่างบนห้องพักหรือบนสระว่ายน้ำก็ได้เช่นกัน

ส่วนใครจะลงมาทานอาหารเช้าตามปกติ มาดูหน้าตาของอาหารเช้าของที่นี่กัน ต้องยอมรับว่ามีไลน์อาหารให้เลือกเยอะพอสมควร รสชาติอร่อยหลายอย่างเลย โดยเฉพาะอาหารไทยนี่คือประทับใจมาก เอาเป็นว่าเหลือๆ และเพียงพอต่อความต้องการสำหรับมื้อเช้าของเพื่อนๆ แน่นอน

ถ้าพูดถึงห้องอาหารนี้ในมื้ออื่นๆ จะบอกว่าแถวหาดจอมเทียนนี้ร้านอาหารทะเลเยอะแยะนะ แต่ห้องอาหารของเค้าก็ถือว่าขึ้นชื่อในระแวกนี้เหมือนกัน เพราะงั้นเรื่องรสชาติน่าจะไม่ธรรมดาแน่นอน จากที่ได้ลองมาแล้ว อาหารของเค้าอร่อยจริง ราคาพอประมาณฮะ

ผัดฉ่าทะเลรวมกะทะร้อน ราคา 420 บาท ของทะเลสดใช้ได้เลย ผัดฉ่ารสชาติเผ็ดนำ ทานกับข้าวสวยร้อนๆ

ปีกไก่ทอด ราคา180 บาท ถือเป็นอาหารทานเล่นเอาไว้เรียกน้ำย่อยได้ดีทีเดียว

คอหมูย่าง เสิร์ฟพร้อมกระเทียมโทน ข้าวเหนียว และน้ำจิ้มแจ่ว ราคา 180 บาท ชอบตรงกระเทียมโทนนี่แหละทำไมทานแล้วมันเข้ากันแบบไม่น่าเชื่อ

ตำข้าวโพดไข่เค็ม ราคา 150 บาท

 

ฟิตเนส เปิดให้ใช้บริการแล้วนะ ตามมาตรการณ์ปลดล็อคของพัทยา แต่อาจจะจำกัดจำนวนผู้เข้าเล่นอาจจะต้องสอบถามกับทางโรงแรมดูก่อนครับ ตัวฟิตเนสอยู่ตรงสระว่ายน้ำเลย

 

033 128 028

www.facebook.com/UJomtienPattaya

www.uhotelsresorts.com/en/ujomtien/default.html

Comments

comments

Leave a Reply