Skip to content

เที่ยวสบาย 9Booking


Hotel Metropolitan Tokyo Ikebukuro

Hotel Metropolitan Tokyo Ikebukuro

Hotel Metropolitan Tokyo Ikebukuro

ตั้งแต่หลายๆ ประเทศเริ่มกลับมาเข้าสู่สภาวะปกติจากเหตุไวรัสโควิด-19 ประเทศต่างๆ ก็เริ่มทยอยเปิดประเทศกันมากขึ้นเรื่อยๆ และแน่นอนว่า ประเทศที่มีอิทธิพลสูงสุดสำหรับการท่องเที่ยวของคนไทยคงหนีไม่พ้น ” ประเทศญี่ปุ่น ” เพราะตั้งแต่ประกาศเปิดประเทศปุ๊บ การจองสายการบินและโรงแรมแรมคึคักแบบขั้นสูงสุด ถึงแม้โรงแรมกับสายการบินราคาจะสูง หลายคนยอมจ่ายเพราะว่าอัดอั้นกับการไม่ได้ไปแดนอาทิตย์อุทัยมา 3 ปีกว่า

ผมก็คนนึงแหละฮะ ที่เฝ้ารอประเทศญี่ปุ่นเปิดอย่างใจจดใจจ่อ และพอเค้าประกาศเปิดจริงๆ แน่นอน่าต้องไม่พลาดที่จะต้องรีบไปประเทศที่ผมรักอันดับ 2 รองจากประเทศไทย

ประเทศญี่ปุ่นไปเมื่อไหร่ ? จริงๆ ไปได้ทุกเทศกาลแหละฮะ มีทั้งหิมะ ซากุระ ใบไม้เปลี่ยนสี หรือแม้หน้าร้อนเค้าก็มีเทศกาลดอกไม้ เรียกว่าสาวกญี่ปุ่นเลือกกันไม่ถูกเลยว่าจะไปช่วงไหนดี จริงๆ ก็อยากจะไปทุกช่วงแหละเนอะ แต่ละช่วงก็มีข้อดีข้อเสียต่างกัน

อีกสิ่งหนึ่งในการวางแผนมาญี่ปุ่นที่สำคัญที่สุดคือ ” โรงแรม ” ฮะ ผมไปญี่ปุ่นมา 10 กว่าครั้ง สิ่งแรกที่ผมจะเลือกโรงแรมเลยคือ ” ทำเลที่ตั้ง ” ถ้าจองโรงแรมทำเลที่ตั้งสะดวก ติดสถานีรถไฟนี่คือนิพพานเลยนะ เราเดินเที่ยวเยอะอยู่แล้วเนอะการที่มีโรงแรมติดสถานีรถไฟคือช่วยประหยัดทั้งเวลาและแรงเราเยอะอันนี้สำคัญ

แต่ถ้านอกจากติดสถานีรถไฟแล้ว ยังติดห้าง ใกล้ถนนช๊อปปิ้ง ( เหมาะสำหรับสายช๊อป ) ร้านอาหารของกินรายรอบ เดินข้ามไปซื้ออาหาร ของกิน หรือแม้กระทั่งซูชิลดราคาตอนเย็นนี่จะดีงามที่สุด

วันนี้ผมเจอโรงแรมที่มีคุณสมบัติทุกประการที่กล่าวมาแล้วฮะ และแน่นอนว่าต้องไม่พลาดที่จะเอามาแนะนำเพื่อนๆ แน่นอน เพราะมันดีงามมากจริงๆ ที่นี่ชื่อว่า ” Hotel Metropolitan Tokyo Ikebukuro “ อยู่ติดกับสถานีรถไฟ Ikebukuro เลย ถือเป็นสถานีหลักและสถานีใหญ่ของญี่ปุ่นเช่นกัน

โรงแรมนี้อยู่ภายใต้แบรนด์ WorldHotels Collection จริงๆ แบรนด์นี้อยู่ในเครือของ BWH Hotel Group เค้ามีโรงแรมอยู่ทั่วโลกเลย โรงแรมในเครือเยอะมากๆ ( สามารถดูโรงแรมทั้งหมดทั่วโลกได้ที่ลิ้งค์นี้ https://bit.ly/3F8Ok8u )

จุดเด่นของแบรนด์นี้คือให้อิสระกับโรงแรมในเครือแต่ละแห่ง ไม่จำกัดไม่บังคับว่าจะต้องอย่างโน้นอย่างนี้ คือปล่อยให้แต่ละโรงแรมมีคาแร็คเตอร์และสไตล์ของตัวเองได้เต็มที่เพราะฉะนั้นถ้าเพื่อนๆ ไปพักที่ไหนก็จะได้สัมผัสความเป็นตัวตนของโรงแรมนั้นได้อย่างแท้จริง

อย่างที่บอกไปว่า ทำเลที่ตั้งนั้นสำคัญจริงๆ สำหรับการไปเที่ยวต่างประเทศแม้กระทั่งประเทศญี่ปุ่นนี่ก็ยิ่งสำคัญ รอบๆ มีร้านสะดวกซื้อรายล้อมแบบเปิด 24 ช.ม. ทุกคนคงรู้แล้วเนอะว่าร้านสะดวกซื้อที่ญี่ปุ่นนั้นเป็นขวัญใจคนไทยขนาดไหน มีแสนหมดแสนอ่ะบอกเลย

เอาภาพมายืนยันว่าใกล้สถานี Ikebukuro จริง แถมมีห้างใกล้ๆ หลายห้างเลยแบบไม่ต้องกลัวว้าเหว่ในการช๊อปปิ้งอย่างห้าง SEIBU ห้าง PARCO

ตรงข้ามโรงแรมคือห้างเลยฮะ มีทั้งแบรนด์เนมอย่าง GUCCI , BOTTEGA VENETA ราคาบอกเลยว่าสาวกแบรนด์เนมนี่ต้องหิ้วกลับมาแน่เพราะราคาถูกกว่าไทยประมาณ 20-30% เลยอะ แบบว่าลดแล้วลดเพิ่มอีก หรือจะช๊อปเสื้อผ้าแบบสบายกระเป๋า GAP ก็มีนะ

ส่วนด้านล่างของห้างจะเป็นซุปเปอร์มาเก็ต และช่วงเย็นอาหารจะลดราคาฮะ บอกเลยว่าต้องมาแก่งแย่งกับชาวญี่ปุ่นกันซะหน่อยเพราะได้รับความนิยมสูงเหมือนกัน

ใกล้ๆ กับโรงแรมก็มีร้านซูชิสายพานเจ้าดังชื่อว่า KURA Sushi ที่เริ่มต้นจานละ 125 เยนเท่านั้น ราคาไม่แพง คุณภาพดี อิ่มอร่อยแบบบริหารงบประมาณการกินด้วยตัวเองไปเลย ส่วนมากผมจะงบบานปลายนะ 555 เพราะอันนั้นก็น่ากิน อันนี้ก็น่าลอง

Sunshine 60 Street คือถนนช๊อปปิ้งสตรีท ที่เชื่อมห้างซันไชน์ซิตี้กับสถานีอิเคะบุคุโระ ก็ยังเป็นถนนยาวที่เรียงรายด้วยร้านเสื้อผ้าแฟชั่น, ร้านอาหาร, เกมเซ็นเตอร์, โรงหนัง ฯลฯ

สำหรับสาวกช๊อปปิ้งพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า ของเล่น โมเดล ฟิกเกอร์ แม้กระทั่งขนม ยา แอลกอฮอล์ ใกล้โรงแรมก็มีทั้ง BIG CAMERA , YAMADA LABI , Don Quijote ให้เดินได้ทั้งวัน

จากโรงแรมสามารถเดินสบายๆ ชิวๆ ประมาณ 1 กิโลเมตร ระหว่างทางเดินก็คือถนนคนเดิน ถนนช๊อปปิ้งทั้งร้านอาหาร ร้านเกม ร้านเสื้อผ้ารองเท้าตลอดทางเพลินๆ มาที่ Sunshine City ได้เลย ตรงจุดนี้จะมีห้างใหญ่เลยฮะ บนดาดฟ้าของตึก World Import Mart Building มี “ Sunshine Aquarium ” อวาเรี่ยมที่น่าจะถูกใจเพื่อนๆ กันโดยอควาเรี่ยมจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ Indoor และ Outdoor ในส่วนของบริเวณ Outdoor มีสิงโตทะเล, เพนกวิน, นาก และนกกระทุง ส่วนในบริเวณ Indoor นั้นจะเป็นสัตว์ประเภทปลา, ปลาหมึก, แมงกะพรุน, ปู, ม้าน้ำ, เต่า แล้วก็สัตว์เลื้อยคลานต่างๆ เค้ามีการแสดงให้ชมด้วยนะฮะ

บัตรค่าเข้า ผู้ใหญ่ 2,400 เยน , เด็กอายุ 7- 15 ปี 1,200 เยน , เด็กเล็ก 4-6 ขวบ 700 เยน

นอกจากอควาเรี่ยมแล้ว ในตึก Sunshine City ถือว่าเป็นห้างขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยของช๊อปปิ้ง ในภาพที่มาให้ชมแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นนะฮะ และที่นี่ถือเป็นแหล่งตู้กาชาปองที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย

สำหรับใครขี้เกียจเดิน รู้สึกเหนื่อยเมื่อยล้า อยากนั่งรถชิวๆ แนะนำ IKE BUS โดยจะวิ่งรอบ Ikebukuro มี 2 เส้นทางด้วยกันคือ เส้นทาง A และ B โดยเริ่มและจบที่สถานี Ikebukuro ทางออก East และ West นอกจากจะสบายแล้ว น้องยังน่ารักคิกขุ แถมรักษ์โลกเพราะเป็นรถไฟฟ้า เรียกว่าเป็นขวัญใจของเด็กๆ เพราะเค้าออกแบบมาคล้ายกับรถนักเรียน ค่าขึ้นครั้งละ 100 เยน แต่ถ้าตั๋ว one day pass ราคา 250 เยนขึ้นลงกี่เที่ยวก็ได้

สถานี Ikebukuro นอกจากจะเป็นสถานีใหญ่แล้วยังเป็นสถานีหลักที่เอาไว้เดินทางท่องเที่ยว Kawagoe เมืองไซตามะ ที่นี่เค้าได้รับฉายาว่า ลิตเติ้ลเอโดะ ด้วยอาคารบ้านเรือนภายในเขตเมืองเก่าที่อนุรักษ์ไว้อย่างดี เป็นสถาปัตยกรรมเก่าสมัยยุคเอโด ที่นี่นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมกันเยอะ หลายคนเช่าชุดกิโมโนใส่เดินถ่ายรูปเล่นดูเข้ากับสถานที่มากๆ อีกอย่างที่อยากให้มาลองคือมันญี่ปุ่นเพราะที่นี่ถือเป็นของขึ้นชื่อเลยทีเดียว

จากโตเกียว ใช้เวลาเดินทางเพียงประมาณ 30–60 นาที โดยเราสามารถซื้อ one day trip ได้ที่ SEIBU Tourist Information Center ที่สถานี Ikebukuro ซึ่งอยู่ใกล้กับโรงแรมเลย

สำหรับใครอยากไปถนนช๊อปปิ้งที่มีความเป็นญี่ปุ่นสูงแบบไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว จะเป็นชาวบ้านคนญี่ปุ่นซะส่วนใหญ่ ก็สามารถนั่งรถไฟจากสถานี Ikebukuro ไปอีกแค่ 3 ป้ายเท่านั้นไปลงที่สถานี Oyama พอออกจากสถานีก็จะเป็นถนนช๊อปปิ้งเลยชื่อว่า Happy Road Oyama Shopping Street

เอาหละฮะ อ่านกันมาถึงตอนนี้แล้วพอจะเข้าใจกันละเนอะว่า โรงแรม Hotel Metropolitan Tokyo Ikebukuro ทำเลที่ตั้งเค้าสะดวกสบายแค่ไหน ต่อไปจะพาไปรีวิวดูความสะดวกสบายภายในโรงแรมกันบ้างละ เชื่อว่าเพื่อนๆ คงอยากรู้ว่า ห้องพักเป็นยังไง กว้างมั้ย อาหารเช้าหละ ไม่ให้เสียเวลาตามไปชมกันเลย

สิ่งแรกและแน่นอนว่าเพื่อนๆ ก็คงต้องถามว่า เค้ามีที่ให้ฝากกระเป๋ามั้ย ? ตอบเลยว่ามีฮะ ถ้ามาเช็คอินก่อนเวลาถ้าห้องยังไม่พร้อมสามารถฝากกระเป๋าไว้ก่อนได้แล้วออกไปช๊อปปิ้งไปเที่ยวได้เลย หรือใครจะส่งแมวดำหรือส่งกระเป่ามาก่อนล่วงหน้าก็สามารถทำได้เช่นกัน

นอกจากร้านสะดวกซื้อจะรายล้อมทั่วโรงแรมเป็นดอกเห็ด ในโรงแรมก็มีร้านสะดวกซื้อในตัวเลยจ้า เปิด 24 ช.ม. เช่นกันเรียกว่าสะดวกเกินไปมั้ยเนี้ย

ด้วยความเป็นตึกสูง จำนวนห้องเยอะ การจะขึ้นห้องพักต้องใช้ลิฟท์ ขอบอกว่าการจัดการของลิฟท์ที่นี่ดีมาก คือไม่ต้องรอนานเลย กดลิฟท์แป๊บเดียวมารับแล้ว ขนาดช่วงเวลาเร่งรีบนะ

สำหรับห้องประชุมสัมนาหรือห้องอาหาร ที่นี่เค้ามีบันไดเลื่อนให้ใช้ไม่ต้องใช้ลิฟท์ก็ได้

ความดีงามของที่นี่คือแต่ละชั้นของห้องพักจะมีตู้ให้กดน้ำแข็งฟรีด้วยจ้า ดีจริงๆ ใช้บริการทุกวันเลย

สำหรับแขกที่มาพักนานๆ แต่เอาเสื้อผ้ามาไม่เยอะ ไม่ต้องไปลำบากหาที่ซักเพราะในตัวโรงแรมมีเครื่องซักผ้าอบผ้าแบบหยอดเหรียญไว้บริการเลยจ้า แต่ใครไม่ได้พักที่นี่อย่ามาเนียนซักผ้าที่นี่นะเพราะเข้าไม่ได้เพราะต้องใช้คียร์การ์ดผ่านประตูมาก่อน ไมโครเวฟก็มีเอาไว้สำหรับอุ่นอาหารทาน โดยเฉพาะไปซื้ออาหารลดราคามาอันนี้คือพร้อม

มาชมห้องพักของที่นี่กันต่อเลย แต่จะเอาห้องบางส่วนมาให้ชมเท่านั้นนะไม่ใช่ทั้งหมดเพราะห้องค่อนข้างแน่นเลย ขอเริ่มด้วยห้องที่ผมพักในทริปนี้ คือห้องแบบ

EXECUTIVE KING

ขนาดห้อง 27 ตร.ม. ถือว่ากว้างพอสมควรเลยนะถ้าเทียบกับโรงแรมในญี่ปุ่น ด้วยความที่เป็นตึกสูงก็จะได้วิวมุมสูงในโตเกียวเลย ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็น Tokyo Sky Tree ด้วย ห้องของเราทางโรงแรมจัดเป็นเตียง Twin ให้ แถมยังเสริมเตียงเพิ่มให้อีก 1 เตียง ยังไม่รู้สึกอึดอัดเลยเรื่องความกว้างถือว่าประทับใจ

ต้องบอกก่อนว่าเตียงที่นี่นอนสบายม๊ากกกก เกินความคาดหมายเลย

ปุ่มควบคุมที่หัวเตียง

เสื้อคลุมที่ให้ใช้ในโรงแรมที่เป็นยูกาตะ เดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่เปลี่ยนเป็นชุดกระดุมแบบยาวแล้วนะ ส่วนตัวมองว่าถึงอาจจะลดความเป็นญี่ปุ่นไปแต่สะดวกกว่ามากเพราะเวลานอนนี่คือไม่ร่นไม่หลุดไม่โป๊

เครื่องฟอกอากาศมีให้ทุกห้อง

ห้องน้ำขนาดกำลังพอเหมาะ อ่างแช่ขนาดใหญ่กว่าปกติถ้าเทียบกับโรงแรมทั่วไป

ถ้าใครใครจะแบกไดเป่าผมของตัวเองไปญี่ปุ่นแนะนำว่าอย่าหาทำ เพราะไปถึงโน่นจากไดแรงๆ นี่เบาลงมากเพราะที่โน่นไฟเค้าไม่ใช่ 220 นะ ใช้ของโรงแรมแหละดีสุด โดยเฉพาะที่นี่ จัดไดเป่าผมของดีเลยถึงขั้นอยากหามาใช้ที่บ้าน คือแรงมากแถมมีโหมดให้ปรับหลายแบบอยู่

EXECUTIVE QUEEN

ห้อง type นี้ขนาดจะ 23 ตร.ม. โดยรวมห้องจะค่อนข้างคล้ายกับห้องที่ผมพัก

GOVERNOR SUITE

ขนาดห้อง 70 ตร.ม. จะแบ่งห้องนอนกับห้องนั่งเล่นชัดเจน แถมยังมีโต๊ะทำงานแบบจริงจังเข้าไปอีก ห้อง type นี้เหมาะกับแนวมาทำงานหรือนักธุระกิจซะมากกว่า

JAPANESE SUITE

ขนาดห้องประมาณ 45-50 ตร.ม. ห้องจะเป็นการผสมผสานแบบห้องของญี่ปุ่นเข้าไปด้วย ถ้าสังเกตภาพจะมีมุมความเป็นแบบญี่ปุ่นชัดเจน ใครไม่ได้พักตามโรงแรมต่างจังหวัดสไตล์ญี่ปุ่นก็สามารถมาพักที่นี่ทดแทนได้เหมือนกันนะ

All Day Dining CROSS DINE 1F

ห้องนี้คือห้องอาหารหลักของโรงแรมที่เปิดแบบ All Day ตั้งแต่มื้อเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ มื้อกลางวัน และมื้อเย็น บางวันจะมีเป็นบุฟเฟ่ต์ด้วย แต่หลักๆ จะขอมารีวิวอาหารเช้าของห้องอาหารนี้ละกันเนอะเพราะทริปนี้ห้องอาหารนี้ผมได้ลองแต่อาหารเช้า โดยวันธรรมดาช่วง Weekday จะเปิดตั้งแต่ 7.00 น. – 9.30 น. ส่วนถ้าเป็น Weekend จะเปิดตั้งแต่เวลา 7.00 น. – 10.00 น. อยู่บริเวณชั้น 1 ใกล้ๆ กับ Lobby

โดยอาหารเช้ายังต้องใช้เป็นคูปองในการมาทานอยู่นะ

ถ้าให้รีวิวอาหารเช้าของที่นี่ ยอมรับว่าค่อนข้างมีไอเท็มให้เลือกเยอะพอควร แต่ก็จะสไตล์แบบญี่ปุ่นคือนี่นิด โน่นหน่อย อะไรประมาณนี้ แต่เอาตรงๆ คือสามารถทานอิ่มไปถึงมื้อเที่ยงได้เลยนะ แต่จากการที่ผมไปพักมา 5 คืน ไอเท็มค่อนข้างจะเหมือนเดิมทุกวัน เปลี่ยนนิดหน่อย สำหรับใครชอบทานหลักๆ แบบในภาพเพื่อนๆ น่าจะชอบเพราะทานได้ทุกวันไม่มีเบื่ออยู่ละ

Japanese Kitchen & Bar SHUNKA 2F

เป็นห้องอาหารญี่ปุ่นอยู่ชั้น 2 ของโรงแรม สามารถขึ้นบันไดเลื่อนหรือลิฟท์หรือแม้กระทั่งบันไดปกติมาได้เลย มีบริการมื้อเที่ยงและมื้อเย็น รสชาติ การจัดจานและหน้าตาจะดูดีกว่าร้านอาหารทั่วไปแน่นอนเพราะนี่อยู่ในโรงแรมระดับ 4 ดาวเนอะ รสชาติอร่อย แถมมีขนมให้หยิบทานฟรีไม่อั้นสำหรับแขกที่มาทานอาหารที่ห้องอาหารนี้ด้วย อันนี้ดีงามมาก ส่วนเรื่องราคา หลายคนคงคุ้นชินกับเมืองไทยที่ราคาอาหารในโรงแรมจะแพงกว่าร้านข้างนอกอยู่แล้ว แต่สำหรับที่นี่ราคาแทบไม่ต่างกันมากเลยฮะ หรือว่าเพราะร้านอาหารข้างนอกราคาก็แรงอยู่แล้วด้วยเลยใกล้เคียงกัน 555

Dining & Bar OVEST 25F

สำหรับสายชิว สายดื่ม หรือสายอยากดูวิวเมืองญี่ปุ่นมุมสูงแบบสวยๆ พร้อมกับความหรูหราใจกลางกรุงโตเกียวแนะนำชั้น 25 ห้องอาหารนี้เลยฮะ นอกจากเครื่องดื่มแล้วยังมีอาหารสามารถสั่งทานได้เหมือนกัน จะออกไปในทางอาหารฝรั่ง

Fitness

นานๆ จะเห็นโรงแรมที่มีฟิตเนสในญี่ปุ่นเนอะ ส่วนมากเราพักโรงแรม Business Hotel จะไม่ค่อยเห็นนะ ถ้าเป็นโรงแรมขนาดใหญ่จะมี และสำหรับที่นี่ไม่ใช่แค่มีธรรมดา คือใหญ่มากด้วย เครื่องเล่นเยอะมาก และคนญี่ปุ่นก็เล่นเยอะเช่นกันเลยเอาภาพมาให้ชมนิดเดียวครับ ไม่กล้าถ่ายเยอะ เกรงใจลูกค้าที่กำลังออกกำลังกายอยู่

มีโอกาสได้เข้าไปถ่ายสถานที่ของโรงแรมที่เอาไว้จัดงานแต่งงาน คือเห็นแล้วอยากแต่งงานที่นี่เลย 555 ข้างในสวยจริง ภายนอกจะเป็นสวนกลางกรุงที่เอาไว้จัดอีเว้นท์เนื้อที่ขนาดย่อมๆ เลย

สรุปปิดท้าย

Hotel Metropolitan Tokyo Ikebukuro ถือเป็นโรงแรมที่กล้าการันตีเพื่อนๆ เลยฮะ เรื่องทำเลที่ตั้งที่ใกล้แหล่งช๊อปปิ้ง ใกล้ห้าง ใกล้ร้านอาหาร ใกล้ซุปเปอร์ลดราคา แถมใกล้สถานีรถไฟใหญ่อย่าง Ikebukuro ไปไหนมาไหนสะดวก เดินเที่ยวมาทั้งวันถ้าต้องเดินกลับโรงแรมหรือหาร้านอาหารลำบากอีกนี่ทริปนั้นจะไม่สนุกแน่ๆ

ความสะดวกสบายของตัวโรงแรมเรียกได้ว่าน่าจะถูกใจเพื่อนๆ แน่นอน เป้นโรงแรม 4 ดาว ขนาดตัวโรแรมใหญ่ ห้องเริ่มต้นก็ขนาดกว้างไม่อึดอัด แถมได้วิวเมืองโตเกียวอีกด้วย

+81 3-3980-1111

https://www.facebook.com/hotelmetropolitan

https://tokyo-ikebukuro.hotel-metropolitan.com/

Comments

comments

14 comments

Leave a Reply