Skip to content

เที่ยวสบาย 9Booking


The Slate Phuket ( เดอะ ซเลท ภูเก็ต )

The Slate Phuket ( เดอะ ซเลท ภูเก็ต )

The Slate Phuket ( เดอะ สเลท ภูเก็ต )

     เป็นหนึ่งในโรงแรมภูเก็ตที่ผมอยากจะแนะนำให้ลองมาพักมากจริงๆ เอาตรงๆ ผมมาที่นี่เป็นครั้งที่ 2 ละ โรงแรมนี้เป็นอะไรที่คนไทยอาจจะลืมไปหรือบางคนอาจจะยังไม่ค่อยรู้จัก ถ้าใครพอทราบข้อมูลหน่อยจะรู้ว่าที่นี่เมื่อก่อนคือ โรงแรมนี้แต่เดิมแรกเริ่มเลยคือ Perla Village แล้วเปลี่ยนเป็น Indigo Pearl เมื่อปี 2550 อยากจะบอกเพื่อนๆ ว่า ถ้ามาสัมผัสเชื่อว่าทุกคนจะต้องชอบที่นี่อย่างแน่นอน

     ด้วยตัวโรงแรมที่ออกแบบดีไซน์ไม่ซ้ำและไม่เหมือนใคร ภายในโรงแรมการตกแต่งสไตล์แนวอินดัสเทรียลชิค ที่ได้แรงบันดาลใจในการสร้างและตกแต่งมาจากเหมืองแร่ในสมัยก่อน ยุคอดีตของเมืองภูเก็ต ( ภูเก็ตสมัยก่อนเคยเป็นยุคเหมืองแร่ดีบุก ) ตัวโรงแรมก็เลยได้ฟีลลิ่งแบบนั้นจริงๆ ตั้งแต่เดินเข้าไปก้าวแรก ดีลเทลรายละเอียดของที่นี่มีเยอะมาก อยากให้ทุกคนลองมาแล้วค่อยๆ ดูและเสพศิลปะการออกแบบของที่นี่ไปพร้อมๆ

     โรงแรมนี้เจ้าของเป็นคนตระกูล ณ ระนอง ที่ใครๆ ก็รู้จักนามสกุลนี้กันดีครับ แถมยังได้สถาปนิกชื่อดังที่สร้างโรงแรมสวยๆ มาแล้วทั่วเอเชีย คือคุณ บิลล์ เบนส์ลีย์ เลยรับประกันได้เลยว่าตัวโรงแรมต้องสวยแปลกตาอย่างที่ไม่คาดคิดแน่นอน

     ตัวโรงแรมอยู่ไม่ไกลจากสนามบินภูเก็ต ประมาณ 4 กิโลเท่านั้น ติดกับหาดในยาง หลายคนไม่ชอบมาพักโรงแรมใกล้ๆ สนามบินเพราะไกลตัวเมือง เอาตรงๆ ส่วนมากก็เช่ารถขับกันอยู่แล้วตอนไปก็ขับไปกลับอยู่ดีไม่ใช่หรอ ใช้เวลาขับเข้าตัวเมืองประมาณ 30-40 นาที ผมว่าโอเลยนะ  หาดนี้ดียังไงนะหรอ เป็นหาดที่ค่อนข้างสงบครับ ทะเลคลื่นไม่แรง ที่สำคัญน้ำทะเลสวย ทรายขาวละเอียดมาก เหมาะกับคนที่ชอบความสงบพักผ่อนแบบคนไม่เยอะ แถมยังได้แชะภาพทะเลกับเครื่องบินเวลาขึ้นลงอีก ได้มุมแปลกๆ ไปอีก ไหนๆ ก็พูดถึงเครื่องบินละ ทริปนี้ผมใช้บริการของสายการบิน VietJet Air มีไปกลับ สุวรรณภูมิ – ภูเก็ต วันละหลายเที่ยวบิน ราคาเรียกว่าออกโปรมาบ่อยและถูกมากๆ

ด้วยตัวโรงแรมที่มีขนาดถึง 88 ไร่ จำนวนห้องพักที่เยอะมาก สระว่ายน้ำของที่นี่เลยมีทั้งหมด 3 สระหลักๆ ด้วยกัน แต่เพราะด้วยโควิด-19 ทำให้นักท่องเที่ยวลดลงอย่างมาก ( เพราะที่นี่คือโรงแรมขวัญใจของต่างชาติของจริง ) สระว่ายน้ำเลยเปิดให้บริการแค่ 2 สระเท่านั้น เรามาเริ่มที่สระหลักของที่นี่ ถือเป้นสระขนาดใหญ่สุดและดูเป็นแนวธรรมชาติและจังเกิ้ลมากๆ มีน้ำตกแฝงอยู่ในสระด้วย

ใกล้ๆ สระหลักจะมีห้องอาหารเปิดอยู่โดยจะเน้นเป็นห้องอาหารกลางวันแบบสบายๆ เน้นอาหารรวดเร็วจานด่วน มื้อกลางวันเล่นสระเสร็จหรือกำลังเล่นสระอยู่ไม่อยากออกไปไหนก็สามารถสั่งอาหารทานที่นี่ได้

สระต่อมาจะเป็นสระที่อยู่ใกล้ๆ กับตัวห้องพักส่วนใหญ่ สระนี้จะเฉพาะผู้ใหญ่เท่านั้น !!! คือเด็กๆ ห้ามมาเล่นตรงนี้เลย ด้วยเพราะคงส่งเสียงเจี๊ยวจ้าวรบกวนแขกคนอื่นที่เค้ามาพักผ่อนกันจริงๆ สระนี้น่าจะเหมาะ

มาโรงแรมนี้ไม่มาถ่ายรูปที่ล็อบบี้นี่ก็คงจะไม่ได้ ล็อบบี้ที่นี่เค้าสวยจริง ถึงขนาดจะไม่ใหญ่มาก แต่ดีเทลมาเต็มเหมือนกันนะ การตกแต่งถือว่ามีความโบราณสมัยก่อนรวมกับความครีเอทสร้างสรร ถ่ายทอดออกมาได้ตรงตามคอนเซปเหมืองแร่สมัยก่อนของเมืองภูเก็ต โดยใช้ไม้เป็นหลักในการตกแต่ง โดยคุมโทนมืดเป็นหลัก

เฌดส์ (Shades)  พื้นที่แสดงผลงานภาพวาดรูปปั้น และภาพถ่ายจากศิลปินทั่วโลก รวมทั้งหนังสือภาพถ่ายสวยๆ มากมายให้คุณเพลิดเพลินกับการชม

มาดูในส่วนของห้องพักของที่นี่กันบ้าง และเชื่อว่าเพื่อนๆ หลายๆ คนก็คงอยากรู้แหละว่า ตัวโรงแรมตกแต่งแบบนี้แล้วในห้องจะเป็นยังไงนะ เอาตรงๆ ห้องพักของที่นี่มีทั้งหมด 8 แบบด้วยกัน แต่รีวิวนี้ขอเอามาให้ชมแค่ 3 แบบเท่านั้นเพราะ เน่องจากช่วงนี้โควิดห้องพักบางส่วนบาง type ยังไม่ได้เปิดให้ใช้บริการ ส่วนพูลวิลล่าแขกเต็มแทบทั้งหมดเลยถ่ายให้ชมไม่ได้

ดีบุก แฟมิลี่ สวีท (D-Buk Family Suite)

     จริงๆ ห้องนี้ไม่ใช่ห้องเริ่มต้นนะ จะเป็นห้องเหนือกว่าห้องเริ่มต้นอยู่ 1 สเต๊ป แต่ด้วยว่าสถานะการณ์ตอนนี้ห้องเริ่มต้นยังไม่เปิดให้บริการ ห้องนี้ก็เลยถือเป็นห้องเริ่มต้นโดยปริยาย ขนาด 76 ตร.ม. ถือว่าให้มากว้างเลยแหละ วิวด้านนอกจะเป็นสวน แต่ข้อดีคือมีอ่างแช่ให้ตั้งแต่ห้องเริ่มต้นเลยจ้า

เพิร์ล เบด สวีท (Pearl Bed Suites)

     ห้องนี้จะเป็นห้องที่อัพขึ้นมาอีกสเต๊ป โดยขนาดห้องจะเล็กกว่าห้องเริ่มต้นคือ ขนาดประมาณ 56 – 65 ตร.ม. รวมพื้นที่บริเวณเทอเรส

ไพรเวท พูล สวีท (Private Pool Suite)

     ห้อง type นี้แทบจะเหมือนห้อง เพิร์ล เบด สวีท (Pearl Bed Suites) ทุกอย่าง แต่จะต่างกันตรงที่ห้องนี้จะมีสระพูลส่วนตัวให้ในห้องพักเลยคือเล่นแบบไม่ต้องไปยุ่งกับใคร แต่ขนาดสระไม่ได้ใหญ่มากนะ เอาไว้แช่เล่นน้ำชิวๆ ได้อยู่ ขนาดห้องเค้า 112 ตร.ม. เลยทีเดียว

ห้องอาหาร Black Ginger (แบล็ค จินเจอร์)

     ถือเป็นห้องอาหารตัวชูโรงและเป็นห้องอาหารไฮไลท์ของเค้าเลยแหละ การันตีด้วยรางวัลและคำชมเยอะมาก โดยการออกแบบเป็นศาลาเรือนไทยสีดำโดยมีบึงน้ำกั้นระหว่างทางเข้ากับตัวศาลา การจะไปทานอาหารที่นี่ต้องข้ามเรือโดยพนักงานที่สวมชุดไทยสมัยก่อนจะคอยสาวเชือกพาเราข้ามไปมาด้วยจ้า อย่าว่าแต่ฝรั่งเลยอย่างเราๆ ยังชอบ ดูตื่นตาตื่นใจเป็นเอกลักษณ์ดีจริงๆ

     ห้องอาหารนี้จะเปิดเฉพาะช่วงเย็นประมาณ 18.30 น. โดยเป็นห้องอาหารจะเน้นอาหารไทยและอาหารไทยพื้นบ้านประจำภาค บางเมนูคือเป็นเมนูดั้งเดิมเก่าแก่ไม่เคยได้ยินมาก่อนก็มี ใครมาที่นี่อยากแนะนำให้มาลองทานสักครั้ง อาหารที่นี่อร่อยจริง รสชาติคือไทยแท้ๆ นี่แหละ

ทิน ไมน์(Tin Mine)

     คือห้องอาหารหลักของที่นี่จะเป็นห้องอาหารเช้าและเย็น ตัวห้องอาหารจากล็อบบี้เดินลงบันไดมาคือถึงเลย

มาพูดถึงเรื่องอาหารเช้าของที่นี่ดีกว่า คือ งง มากว่า ตอนไปแขกไม่เยอะเลยนะ แต่โรงแรมจัดบุฟเฟ่ต์ตามปกติ แล้วก็ไม่ใช่บุฟเฟ่ต์แบบไก่กาขอไปที ถือว่าดีในสายตาของผมเลยนะ คือ รู้จักเอาขนมและอาหารประจำพื้นถิ่นมาใส่ในไลน์ให้ด้วยอย่าง เกี๋ยมโก้ย , ปาวหล้าง , โกสุ้ย คือเอาตรงๆ ผมไม่รู้จักเลยทางโรงแรมก็คงเข้าใจเนอะว่าแขกอาจจะไม่รู้จักเลยมีข้อมูลอธิบายให้เสร็จศัพท์ ถ้าจะให้อธิบายว่าอาหารเช้ามีอะไรบ้างก็คงจะยาวไป ยังไงลองชอบภาพดูละกันเนอะ

มื้อเย็นก็สามารถมาฝากท้องที่ห้องอาหารนี้ได้จริงๆ รสชาติคืออร่อยจริง ทั้งของคาวของหวาน

Tongkah Tin Syndicate

     อันนี้คือบาร์ที่ทำออกมาได้ฟีลเหมืองแร่สุดๆ เอาไว้มานั่งทานเครื่องดื่มเย็นๆ ดูจอโปรเจคเตอร์ไว้ถ่ายทอดสดกีฬา มีโต๊ะสนุก มีโต๊ะพูลอีกด้วย โดยใช้บริการฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายครับ

“ทิน บ็อกซ์” สโมสรสำหรับเด็ก (Tin Box – Kid’s Club)

     คือคิดส์คลับของที่นี่ เห็นตัวคิดส์คลับเค้าไม่ได้ใหญ่มากก็จริง แต่ขอบอกเลยว่าพนักงานนี่ให้คะแนนเต็ม 100 คือดูแลเด็กดีมาก ใส่ใจตลอดเวลา โดยสามารถฝากหนูๆ ไว้กับพี่ที่ดูแลได้เลย อย่างเจ้ายูนี่ถึงขนาดติดใจพี่เค้าจนจะตามเค้ากลับบ้านคิดดู 555 มีกิจกรรมให้เด็กๆ ทำเยอะบอกเลยว่าเด็กๆ อยู่ได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ

Fitness ก็เปิดให้บริการแล้วฮะ

โคคูนสปา (Coqoon Spa)

     สปาเจ้าของรางวัลดีไซน์ระดับโลก ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางแมกไม้เขียวขจี ห้องทรีทเมนต์สวีทแต่ละห้อง บริการคุณด้วยทรีทเมนต์และการนวดหลากหลาย ในบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติ ให้คุณพบสวรรค์ของการผ่อนคลายอย่างแท้จริง 

     โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “เดอะเนส” (The Nest) ที่ถือเป็นซิกเนเจอร์ของโคคูนสปา โดดเด่นด้านการดีไซน์ โครงสร้างภายนอกสร้างจากหวายเทียมทำด้วยมือ ถูกออกแบบเป็นลักษณะเหมือนรังนกบนต้นไม้กลางแมกไม้นานาพรรณ 

 

KRU Precision Wellness

ในโรงแรมมีศูนย์ส่งส่งเสริมสุขภาพ เปิดให้บริการด้วยนะ โดยการเน้นตรวจและวางแผนความเป็นอยู่ที่ดี การมีอายุยืนยาว และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยใช้การวินิจฉัยที่แม่นยำในการดูแลสุขภาพภายใต้การดูแลและคำแนะนำของทีมแพทย์

สรุปปิดท้าย

     ด้วยโรงแรมนี้ที่จะดวางให้เป็น ” ดัไซน์ โฮเทล ” ที่แปลกและไม่เหมือนใครโดยอิงมาจากเหมืองแร่ของภูเก็ตสมัยก่อน แถมยังเป็นการออกแบบของเจ้าพ่อวงการออกแบบโรงแรมระดับโลกอย่าง “บิลล์ เบนสเลย์” (Bill Bensley) ที่เชื่อว่าเพื่อนๆ ต้องตื่นตาตื่นใจและถ่ายรูปกันสนุกแน่ๆ กับโรงแรมแนวนี้ที่หาไม่ได้ง่ายๆ ในเมืองไทย

     อีกอย่างที่อยากจะพูดถึงคือเรื่อง ” บริการและพนักงาน ” ของที่นี่บอกเลยว่าเทรนมาอย่างดีมากถึงมากที่สุด ตัวพนักงานกับการบริการคือ 5 ดาวฮะ ยอมรับเลยว่าแทบไม่น่าเชื่อว่าพนักงานของที่นี่จะบริการได้มาตรบานขนาดนี้

The Slate Phuket 

Nai Yang Beach & National Park, 116 Moo 1,

Sakhu, Thalang, Phuket 83110, Thailand

+ 66 (0) 76 327 006

http://www.theslatephuket.com/

https://www.facebook.com/TheSlatePhuket/

Comments

comments

18 comments

Leave a Reply