Lacol Khaoyai – A Chatrium Collection ( ลาโค่ เขาใหญ่ )

ต้องออกตัวก่อนว่าผมไปที่นี่เป็นครั้งแรกนะ ด้วยประวัติของโรงแรมคือเมื่อก่อนชื่อว่า Romantic Khaoyai แล้วมีการเปลี่ยนชื่อเป็น Lacol Khaoyai และ ณ ปัจจุบันมีการสวมแบรนด์เชนเข้าไปฮะ ชื่อว่า Lacol Khaoyai – A Chatrium Collection

ถ้าถามผมว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง อันนี้ต้องบอกเลยว่าไม่ทราบจริงๆ แต่ที่แน่ๆ การสวมแบรนด์ชาเทรี่ยมน่าจะต้องมีการเพิ่มมาตรฐานมากขึ้นอย่างแน่นอน ยังไงมาชมรีวิวที่นี่กัน ว่าเพิ่งมีการสวนแบรนด์เข้ามาจะถูกใจเพื่อนๆ กันมั้ยนะ

ด้วยทำเลที่ตั้งถ้าดูจากในภาพจะเต็มไปด้วยธรรมชาติ ต้นไม้ และภูเขา แต่จะบอกว่าไม่ได้อยู่ลึกหรือลี้ลับอะไรขนาดนั้น เพราะด้านหน้าของโรงแรมคือติดกับถนนธนะรัชต์ที่เป็นเส้นหลักเลยนะ คือไปไหนมาไหนสะดวกมาก ทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ ไม่เว้นแม้แต่ 7-eleven

Lacol Dome Dining

ถือเป็นไฮไลท์และเป็นหน้าเป็นตาของโรงแรมก็คงไม่ผิด เพราะเจ้าโดมใสนี่แหละที่หลายๆ คนอยากจะมานั่งทานอาหาร มาถ่ายรูป ในบรรยากาศแบบสไตล์เขาใหญ่ ถ้าจะเรียกว่าคนรู้จักโรงแรมนี้ก็เพราะโดมใสก็คงไม่เกินไปเนอะ เอาจริงๆ ก็บรรยากาศดีจริงๆ แหละ ถ่ายรูปสวย พนักงานดูแลดีมากๆ

ตัวโดมใสมี 4 โดม หลายคนอาจจะคิดว่าถ้ามาไม่ทันจะไม่ได้ถ่ายในโดมใสอะสิ ไม่ต้องห่วงฮะเพราะทางโรงแรมเค้าจัดไว้ 1 โดมสำหรับไว้ให้เพื่อนๆ ถ่ายรูปทุกคน ส่วนอีก 3 โดมจะไว้บริการให้นั่งทานอาหารจริงๆ ฮะ ถ้าอยากนั่งในโดมจริงๆ แนะนำโทรจองกับทางโรงแรมดีที่สุด

แล้วถ้าไม่ได้มาพักที่นี่จะมาทานแต่อาหารได้รึเปล่า ? คำตอบคือได้ฮะ โรงแรมยินดีซะด้วยซ้ำ

เปิดให้บริการ 17.00 น. – 22.30 น.

จะสั่งอาหารทานก็ดี หรือเครื่องดื่มที่หน้าตาเกร๋ๆ ก็ดี หรือจะเป็น Dinner Tea Set ที่มาแบบอลังการๆ ก็ยังได้

มาสำรวจส่วนอื่นๆ ของโรงแรมกันดีกว่าเนอะ เริ่มต้นจากสระว่ายน้ำของที่นี่เค้าแบ่งโซนเด็กโซนผู้ใหญ่ให้ด้วย

Journey Café & Bar

ตรงสระว่ายน้ำมีคาเฟ่ที่บริการทั้งขนม เครื่องดื่มและอาหารด้วยนะ คือไม่ต้องมาพักที่นี่ก็มาใช้บริการคาเฟ่ได้เหมือนกัน

เปิดบริการ 09:00 น. – 22:30 น.

พาไปชมห้องพักต่อดีกว่าเนอะ

Deluxe Mountain View

คือห้องเริ่มต้นของที่นี่ ขนาดก็ปาไป 40 ตร.ม. ไปแล้วฮะ ถือเป็นห้องเริ่มต้นที่ขนาดใหญ่เลยนะ

Grand Deluxe Pool View

การตกแต่งและขนาดห้องจะเหมือนกับห้องเริ่มต้นเลย จะต่างกันที่วิวคือห้องนี้จะเป็นวิวสระว่ายน้ำ สำหรับผมนะผมว่าผมชอบวิวเขาจากห้องเริ่มต้นมากกว่า

Executive Deluxe Pool View

ขนาดห้อง 45 ตร.ม. จะมีขนาดใหย่ขึ้นมาอีกหน่อย ตัวห้องน้ำจะมีอ่างแช่ให้ สำหรับห้อง type นี้จะมีแบบวิวสระว่ายน้ำกับวิวภูเขา

1-Bedroom Family Suite

ขนาด 80 ตร.ม. ใหญ่แบบจุใจ แบ่งเป็น 1 ห้องนอน 1 ห้องรับแขก มีระเบียงกว้างให้ มีตู้เย็นขนาดใหญ่ พร้อมไมโครเวฟอีกด้วย แต่ห้องน้ำไม่มีอ่างแช่นะ

ที่นี่มินิบาร์ฟรีด้วย

Audrey

ถือเป็นห้องอาหารหลักของโรงแรม และเป็นห้องอาหารเช้าที่ใหญ่พอสมควรเลยนะ สำหรับในส่วนของเมนูอาหารเช้าจะเป็นบุฟเฟ่ต์ที่มีไลน์อาหารเยอะพอประมาณ อาจจะไม่มีเมนูไฮไลท์หวือหวา แต่บอกเลยว่าก็พอสำหรับมื้อเช้าสบายๆ

เปิดบริการอาหารเช้า 07.00 น. – 10.00 น.

ทานอาหารเช้าอิ่มแล้วก็มาเดินย่อยกันเนอะ พาไปสำรวจมุมถ่ายรูปของโรงแรมกัน

ที่นี่เค้ามี BBQ และ เซตชาบูสไตล์ญี่ปุ่นด้วย ผมเลือกเป็นแบบชาบูฮะเพราะถ้าอากาศเขาใหญ่เย็นๆ หนาวๆ ได้ซดอะไรร้อนๆ ก็คงจะดี คือตอนแรกไม่ได้คาดหวังกับตัวเนื้อหมู เนื้อวัว มากเท่าไหร่ แต่พอเอามาเสิร์ฟบอกเลยว่าลายสวยมาก ที่สำคัญคือน้ำจิ้มรสชาติดีมาก รู้เลยว่าเค้าใช้ของดี

สำหรับใครสนใจลองสอบถามกับโรงแรมดูอาจจะต้องแจ้งล่วงหน้า แต่ถ้าจองที่พักตรงผ่าน website โรงแรมเหมือนเค้าจะมีราคาห้องพักรวมกับ Set BBQ หรือ Shabu ดวยนะ ยังไงลองเข้าไปดูได้ที่ https://lacolkhaoyai.com

 

หรืออยากจะสั่ง Set Picnic น่ารักๆ นั่งบนสวนก็สามารถแจ้งกับทางโรงแรมไว้ล่วงหน้าได้เลย

อีกหนึ่งไฮไลท์ของโรงแรมคือเค้ามี Wellness ด้วยนะ มีทั้ง Onsen แบบญี่ปุ่น ห้องเกลือ และนวดสปา โดยจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หรือเพื่อนๆ อาจจะจองห้องพักรวมเป็น Package ใน website ของโรงแรมมาก็ได้

ขอจบรีวิวของที่นี่ด้วยภาพของ Lobby โรงแรมกัน

http://081 773 7378

www.facebook.com/Lacolkhaoyai

https://lacolkhaoyai.com/

Comments

comments