วันนี้ขอแหวกแนวนอกเรื่องโรงแรมกันสักนิด เอาร้านอาหารมาแนะนำให้เพื่อนๆ รู้จักกันดีกว่าเพราะเห็นว่าร้านนี้เค้ามีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร และคิดว่าคงจะหาทานยากมากๆ

” ร้านอาหาร THE HOUSE – Bangkok “

ต้องเกริ่นก่อนว่าที่มาที่ไปของร้านอาหารนี้ไม่ธรรมดาเลย เห็นเป็นร้านอาหารบ้านทรงไทยจ๋าแบบนี้ แต่หารู้ไม่ว่าเจ้าของร้านอาหารนี้คือชาวเยอรมัน ที่ชอบท่องเที่ยวไปทั่วโลกกว่า 40 ปีเลยทีเดียว ไปมาแล้วหลากหลายประเทศและไม่ได้แค่เที่ยวอย่างเดียวซะเมื่อไหร่ เค้ายังหลงรักอาหารและเมนูพื้นเมืองพื้นบ้านสูตรดั้งเดิมของประเทศอื่นๆ ที่เค้าได้ไปสัมผัสมา พยายามเสาะหาค้นหาสูตรเมนูอาหารจากคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายของประเทศนั้นๆ บางเมนูนี่เก้าแก่ถึงขนาดเป็น 100 ปีเลยก็มี จนถึงวันนึงที่เค้าคิดว่า อยากจะแชร์ประสบการณ์อาหารที่หาทานได้ยากให้คนอื่นๆ ได้ลิ้มลองกันบ้าง

และเนื่องจากเจ้าของร้านที่ค่อนข้างซีเรียสเรื่องเมนูอาหารแบบดั้งเดิมแบบแท้ๆ วัตถุดิบสำคัญต่างๆ และเครื่องเทศที่ปลูกและเติบโตในสถานที่ดั้งเดิมนั้นก็สำคัญ จึงเป็นที่มาว่า วัตถุดิบที่นำมาปรุงแต่งอาหารของที่ร้านบางวัตถุดิบก็นำเข้ามาจากประเทศต่างๆ ด้วยนะ

สำหรับใครที่สนใจอยากลองอาหารร้านนี้จะแบ่งเสิร์ฟเป็นคอร์ส มีให้เลือกทั้งแบบ 7 และ 9 คอร์ส ที่เสิร์ฟกันแบบ Home Cooking เป็นอาหารที่เชฟทำให้ทานกันแบบสดๆ ร้อนๆ วันนึงจึงรับคนได้ไม่มากฮะ ประมาณ 20 ที่นั่งเท่านั้น และมีแค่รอบเดียวเป็นมื้อ Dinner เริ่มลงโต๊ะเวลา 18.45 น. พร้อมกันหมด

ร้านอาหารนี้ไม่ใช่ทานอาหารแป๊บๆ แล้วกลับ ตอนเสิร์ฟอาหารทุกเมนู ย้ำว่าทุกเมนู น้องพนักงานจะมาอธิบายรายละเอียดวัตถุดิบและกรรมวิธีการปรุงอาหารของอาหารจานนั้นๆ และตามมาด้วยประวัติความเป็นมาของแต่ละเมนูให้ฟังก่อนที่เราจะรับประทานอีกด้วย

ขอเริ่มด้วยเมนูแรกคือ The Starter @ Mykonos Tzatziki & French Baguette

ขนมปังบาเก็ตต์อบใหม่ๆ หอมๆ กรอบนอก นุ่มใน ที่ทางเจ้าของร้านใช้เวลานานมากในการหาร้านขนมปังในกรุงเทพมหานครเพื่อค้นหาเจ้าขนมปังบาเก็ตต์ที่ถูกใจ และก็ได้มาเจอร้านนึงที่ทำให้เจ้าของร้านนึกถึงบาเก็ตต์ที่อร่อยที่สุดในเมืองเบรดาญ ประเทศฝรั่งเศส

ส่วนซาชิกิ ที่เจ้าของร้านได้ไปพบที่เกาะไมโคนอส ประเทศกรีซ ที่เค้าบอกว่าอร่อยที่สุดตั้งแต่เค้าเคยทานมาเลย

The Raw @ Paris Can-can Beef-Tartar on Rye Bread

เมนูนี้ให้ย้อนกลับไปสมัยคุณปู่ของเจ้าของร้าน ในยุคสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 สมัยนั้นคุณปู่ของเจ้าของร้านประจำการอยู่ที่ปารีส ได้ไปทานอาหารรสเลิศอยู่ในร้านแห่งนึง และในร้านอาหารนั้นเองคุณปู่ของเจ้าของร้านได้ตกหลุมรักสาวงามที่เต้นรำอยู่ในร้านแห่งนั้น และมารู้ทีหลังว่าคือลูกสาวของเจ้าของร้านนั้นเอง เธอทำเมนู Tartare ให้คุณปู่ของเจ้าของร้านทาน โดยเธอปรุงขึ้นมาเองปาดลงบนขนมปังเนื้อแน่นแบบพร้อมทานได้ทันที สูตรอาหารนี้จึงเป็นสิ่งสุดท้ายที่เหลืออยู่จากความรักของพวกเค้าทั้ง 2 เพราะหลังจากสิ้นสงครามโลกครั้งที่2 ได้แยกพวกเขาออกจากกัน ซึ่งยังคงสูตรดั้งเดิมตั้งแต่ปี 1908

The Salad @ Sacra di San Michele Cloister Lemony-Burrata-Fennel Salad

เมนูนี้ทางเจ้าของร้านได้มาจากเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ที่เคยรู้จักกันตั้งแต่ 1989 บนเกาะ Phu Quoc เวียดนาม เขาได้ไปพบเพื่อนเค้าที่อิตาลี ที่ตอนนั้นเค้าได้บวชที่ Sacra di San Michele ใน Piemonte ทำให้รู้ว่าที่แห่งนี้เค้าปลูกผักชีล้อมกันมากว่า 1,000 ปีแล้ว โดยมีความเชื่อว่าถ้าได้กินผักชีล้อมจะทำให้แข็งแรงอายุยืนยาวไป 120 ปี เพราะฉะนั้นเมนูนี้จึงเป็นเมนูที่พระที่นี่ทานกันทุกวัน สูตรนี้มีอายุกว่า 2,000 ปีเลยทีเดียว

The Soup @ Trivandrum Mulligatawny

ซุปนี้มีประวัติตั้งแต่ปี 1650 และพบในหนังสือคู่มือทำอาหารในปี 1822 แต่นับจากวันนั้นถึงวันนี้ผ่านไป 200 ปีต่อมามีการเปลี่ยนแปลงมีการปรุงแต่งเปลี่ยนแปลงไปมาก ในปี 1988 เจ้าของร้านได้ไปเยือนประเทศอินเดีย เมือง Trivandrum เพื่อไปเยือนริมหาด Kovaiam ตามที่เพื่อนของเค้าแนะนำ และครั้งนั้นเค้าได้ไปช่วยชาวประมงพื้นบ้านในการจับปลา และครั้งนั้นเองชาวประมงได้ชวนเค้าไปทานอาหารที่บ้าน จึงเป็นที่มาของเมนูนี้ที่มีมานานกว่า 300 ปี ที่เป็นซุปแกงกระหรี่พร้อมสมุนไพร 11 ชนิด

The Sea @ Ceviche from Venezuela´s Angel Falls

เซวิเซ่ เป็นเมนูที่คนรู้จักกันเยอะอยู่แล้ว แต่วันนี้เราจะเสิร์ฟเซิเซ่ที่มาพร้อมปลากระพงแดงนำเข้า แช่ในน้ำมะนาวและสมุนไพรผสมด้วยชิ้นมะม่วงน้ำดอกไม้และเสาวรส

เมื่อ 25 ปีก่อนเจ้าของร้านได้ไปดำน้ำที่เกาะแถบแคริเบียน และได้พบกับเกาะ Isia Margarita ที่เค้าไปเจอร้านอาหารแห่งหนึ่งเหมือนกะรท่อมไม้ มีโต๊ะเพียง 3 ตัวเท่านั้น เซวิเซ่ของร้านนี้อร่อยที่สุดตั้งแต่เค้าเคยทานมา จึงขอสูตรและเคล็ดลับจากร้านนี้ไว้

 

The Casserole @ Cape Town Lamb Bobotie

เนื้อวัวและเนื้อแกะสับละเอียดผสมกับความหวานของแอปริคอทและสมุนไพรพวกเคอรี่และขมิ้น สูตรนี้ทางเจ้าของร้านได้มาเมื่อ 15 ปีก่อนตอนที่เค้าไปทานร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมือง Cape Town เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีความเป็นกันเองสุดๆ

พอก่อนถึงอาหารจานหลักก็จะเบรคทานผลไม้นิดๆ หน่อยๆ

 The Meat @ Prussian Veal-Meatballs on Rice ( Königsberger Klopse )

สูตรมีทบอลในไวน์ขาวนี้พบเห็นได้ทั่วไปในประเทศเยอรมนี แต่จนกระทั่งปี 1946 เมือง Königsberger เป็นเมืองในประเทศรัสเซียตะวันออก ( ตอนนี้เป็น โปแลนด์ ) อาหารจานนี้ภูกปรุงด้วย เคเปอร์ ไวน์ขาว น้ำมะนาว เสิร์ฟพร้อมข้าวท้องถิ่น

สูตรนี้ได้มาเมื่อ 15 ปีก่อนที่เจ้าของร้านไปเที่ยวเมือง Gdansk(Danzig) เดินถนนเก่าในตอนเช้าเพื่อหาอาหารเช้าทาน จึงไปเห็นร้านอาหารร้านนึงที่ไม่มีป้ายหน้าร้านบอก แต่มีคนเฒ่าคนแก่เดินลงไปในเพลิงใต้ดิน ข้างล่างเป็นโต๊ะใหญ่ๆ ที่ทุกคนนั่งร่วมโต๊ะอาหารกัน และร้านอาหารนี้เองที่ได้ให้สูตรอาหารเมนูนี้มา

 The Wild @ Himmel & Äed with Boudin Noir

สูตรนี้มาจากคนอบขนมอายุ 95 ปีที่เขียนให้เจ้าของร้านในกระดาษเช็ดปากระหว่างที่เค้านั่งบนโต๊ะเดียวกันในโรงเบียร์เมืองเก่า Cologne ของเยอรมนี ที่เจ้าของร้านอายุได้เพียง 18 ปี

อาหารจานนี้เป็นอาหารพื้นเมืองของชาวเยอรมัน ที่มีความหมายว่าสวรรค์และพื้นโลก เพราะมีส่วนประกอบของแอปเปิ้ลซึ่งมีลำต้นสูงใหย่ และมันฝรั่งที่อยู่ใต้ดิน ส่วนผสมสุดพิเศษที่อยู่ด้านบนคือ ไส้กรอกเลือดฝรั่งเศสเกรดพิเศษและเป็นสูตรเฉพาะ

The End @ Cinnamon Baked Apple – filled with Crispy Bacon & Goat Cheese

เมนูของหวานคือเมนูสุดท้ายที่ได้สูตรนี้มาจากคุณย่าของเจ้าของร้านนั่นเอง เกิดจากคุณย่ามีหนังสือสูตรทำอาหารที่เขียนเองขึ้นมาหลายเล่มโดยส่งต่อมาให้ทางเจ้าของร้านผ่านทางแม่

หมดแล้วฮะ ที่ผมน้ำมาให้ชมกันจะเป็นแบบ 9 คอร์ส สำหรับคนที่สนใจอยากไปลองทานอาหารร้าน THE HOUSE ตั้งอยู่ซอยเย็นอากาศ 2 ช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม.เรานี่เองฮะ จะเข้าไปในซอยลึกพอสมควร ที่ร้านจะเป็นบ้านทรงไทยมีที่จอดรถได้ประมาณ 2-3 คัน แต่ถ้าจอดไม่พอละแวกนั้นสามารถจอดรถได้ไม่ลำบากครับ 

สอบถามข้อมูลหรือ โทรมาจองล่วงหน้าได้ที่ 02-0052766

https://www.facebook.com/TheHouseBangkok/

http://www.thehouse-bkk.com/

Comments

comments