” สะ บาย ดี “

แค่คำทักทายนี้ทุกคนก็รู้แล้วเนอะว่าหมายถึงการทักทาย สวัสดี ของคนประเทศลาว

วันนี้ผมจะพาเพื่อนๆ ไปใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์พักผ่อนกับเมือง มรดกโลก ซึ่งไม่มีที่ไหนที่จะเหมาะเท่ากับเมืองนี้อีกแล้ว ที่นั่นก็คือ หลวงพระบาง

เรามาทำความรู้จักกับเมืองหลวงพระบางกันก่อนเนอะ ว่ามีประวัติความเป็นมายังไง

อยู่ทางภาคเหนือของประเทศ ตัวเมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงและแม่น้ำคาน ซึ่งไหลมาบรรจบกันบริเวณนั้นเรียกว่า ปากคาน เป็นเมืองที่องค์การยูเนสโกได้ยกย่องให้เป็นมรดกโลก

เนื่องจากลาวนั้น ตกเป็นเมืองขึ้นของสยาม เวียดนาม และ ฝรั่งเศส ตามลำดับ   ด้วยเหตุนี้เองที่เมืองหลวงพระบางมีความเป็นมายาวนาน เป็นราชธานีเก่าแก่ วัดวาอารามมากมาย และมีธรรมชาติที่วิเศษ  เมื่อองค์การ ยูเนสโก้ ยกให้หลวงพระบางเป็นเมืองมรดกโลก ชื่อของหลวงพระบางจึงรู้จักกับนักท่องเที่ยวทั่วไป  การท่องเที่ยวเมืองหลวงพระบางจึงมีชื่อเสียงมากที่สุดของลาว

พอรู้เรื่องราวของเมืองหลวงพระบางกันคร่าวๆ แล้ว เราก็เดินทางไปหลวงพระบางกันเลยดีกว่าครับ

สำหรับการมาหลวงพระบางนั้นจากเมืองไทยถือว่าสบายมากๆ โดยใช้สายการบินมีหลากหลายเจ้าที่สามารถบินตรงมาลงที่เมืองนี้ได้เลย โดยใช้เวลาบินประมาณชั่วโมงนิดๆ เอง ก็มาถึงหลวงพระบางแล้ว แถมราคาก็ไม่ได้แพงด้วย ยิ่งมีโปรโมชั่นนะอย่างกับจองบินภายในประเทศด้วยซ้ำ ทริปนี้ผมบินโดยสายการบินแอร์เอเชีย ซึ่งจะต้องไปขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมือง เลยมีโอกาสใช้บริการของ The Coral Executive Lounge  ( เดอะ คอรัล เอ็กซ์คลูซีฟ เล้าจน์ ) เป็นเล้าจน์รับรองที่ตั้งอยู่ในอาคารผู้โดยสายระหว่างประเทศ พอผ่านจุดตรวจของสนามบินเข้ามาก็จะเห็นเลยครับอยู่ด้านหน้า

มีทั้งเครื่องดื่มแบบ L หรือเครื่องดื่มซอฟดริ้งค์ ชา กาแฟ มีหมดครับ รวมทั้งอาหาร ขนมต่างๆ ก็มีบริการเช่นกันในราคา 1,000 บาท สามารถใช้บริการได้ 2.30 ชั่วโมง ถือว่าโอเคเลยนะ ที่นั่งสะดวกสบาย มีอะไรให้ดื่มให้กินด้วยก่อนขึ้นเครื่อง

แถมมีบริการนวดฟรี 30 นาที

การมาหลวงพระบางนี้เหมือนกับเรามาเที่ยวเมืองไทยนี่แหละ สะดวกสบายมาก เพราะภาษาเค้าก็สามารถสื่อสารภาษาไทยได้เพราะใกล้เคียงกัน แถมเงินก็ไม่จำเป็นต้องไปแลกเงินกีบของเค้าด้วย สามารถใช้เงินไทยนี่แหละ แต่ต้องเป็นแบงค์เล็กๆ แบบ 20 50 บาทนะ ถ้าแบงค์ใหญ่จะใช้ไม่ได้ หรือใครจะแลกแบงค์กีบก็ได้นะ

ส่วนเรื่องอินเตอร์เนต ผมหาซื้อซิมการ์ดที่ตรงสนามบินเลยครับมีเยอะแยะมากมายให้เลือก ราคาประมาณ 200 บาท ใช้ 4G ได้ 4 วัน

มาถึงแล้วก็นั่งรถจากสนามบินมาโรงแรมแรกก่อนเลยครับ คือ Sofitel Luang Prabang ( โซฟิเทล หลวงพระบาง ) ต้องบอกก่อนว่าหลวงพระบางเนี้ยเป็นเมืองสโลว์ไลฟ์ที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก เวลาไปไหนมาไหนสามารถเดินหรือปั่นจักรยานเที่ยวได้แบบชิวๆ เลยครับ ( โรงแรมมีจักรยานให้ยืมฟรี ) อย่างผมมาที่โรงแรมนี้นั่งรถมาแค่ประมาณ 20 นาที ก็ถึงแล้ว เราไปเช็คอินเก็บของกันก่อนเนอะ

ที่นี่จะมีพิธีต้อนรับแขกที่จะเข้ามาพักด้วย ” พิธีบายศรี ” ด้วยครับ บรรยากาศรู้สึกอบอุ่น เป็นกันเองมากๆ แต่เค้าจะมีพิธีนี้อาทิตย์ละ 1 ครั้งเท่านั้น

ขอเอาห้องพักของผมมาให้ชมซะหน่อย ที่นี่ห้องไม่เยอะครับมีแค่ 25 ห้องเท่านั้น  ถ้าช่วงพีคๆ ของที่นี้บอกเลยจองยากมาก เต็มตลอด

มาดูรอบๆ โรงแรมกันบ้างเนอะ โซฟิเทล หลวงพระบาง เป็นโรงแรมที่มีขนาดไม่ได้ใหญ่มากครับ แต่จะคล้ายๆ เป็นเหมือนบ้านพักตากอากาศ ที่มีสวนอยู่ทั่วบริเวณโรงแรม ผสมผสานด้วยการออกแบบและตกแต่งให้ความรู้สึกถึงวัฒนธรรมเก่าแก่ของที่นี่

สปา ที่นี่ก็เยี่ยมครับ เล่นเอาหลับลึกเลย

ที่เที่ยวแรกที่จะไปกันก็คือ น้ำตกตาดกวางสี

 เป็น น้ำตกที่สวยที่สุดในหลวงพระบาง เป็นน้ำตกหินปูน สูงราว 70 เมตรมีสองชั้น สภาพป่าร่มรื่น มีสะพานและเส้นทางเดินชมรอบๆน้ำตกและสามารถเลาะข้างน้ำตกไปชมน้ำตกชั้นบนสามมารถเล่นน้ำบริเวณลำธารได้

ค่าเข้า 20,000 กีบ ใช้เวลาเดินทางจากโรงแรมไปประมาณ 1 ชั่วโมงครับ สามารถเดินทางด้วยการเหมารถ ซื้อทัวร์ หรือขับรถไปเองก็ได้ แต่ขอบอกกก่อนเลยว่าที่นี่สวยจริงๆ และไม่ควรพลาด แต่สำหรับคนเมารถต้องเตรียมตัวให้ดีครับเพราะทางเอาเรื่องอยู่

ล่องเรือชมความงามแม่น้ำโขง โดยใช้บริการเรือ Mekong Kingdoms ( แม่โขง คิงดอม ) ถ้าใครสนใจสามารถติดต่อได้ครับที่ www.mekongkingdoms.com เรือหรูมากครับ มีห้องแอร์ด้วย บริการทั้งอาหาร และเครื่องดื่มบนเรือ แต่จะเป็นแบบเหมานะครับ ราคาก็แพงพอตัวอยู่แต่จุคนนั่งได้เยอะอยู่นะ ถ้ามากันเยอะๆ หน่อย ผมว่าก็น่าจะโอเค แต่ถ้าใครงบไม่ถึงมีเรืออีกหลายแบบให้เลือกครับ

2 ฝั่งโขงที่เราได้นั่งเรือชม สิ่งแรกที่เห็นชัดๆ เลยคือ ธรรมชาติที่ยังคงอุดมสมบูรณ์แบบเต็มที่ อยู่เต็มทั้ง 2 ฝั่งเลยครับ

ใช้เวลาเดินทางมาประมาณ 2 ชั่วโมงก็มาถึงจุดหมายปลายทางที่เราจะมาครับ คือ ถ้ำติ่ง โดยส่วนตัวแล้วในถ้ำผมเฉยๆ นะ ถ้าของไทยเรายังดูมีอะไรมากกว่าครับ แต่เสน่ห์ของเค้าอยู่ที่การล่องเรือชมธรรมชาตินี่แหละ

มาหลวงพระบางแล้วต้องมากินพิซซ่า ฟังดูตลกมั้ย แต่พอมาลองทานจริงๆ ขอบอกเลยว่าร้านนี้ต้องมาจริงๆ นะ อร่อยสุดจริงๆ ทางเข้าร้านนี่มืดแล้วเปลี่ยวมาก ยังกลัวอยู่ว่าจะใช่มั้ยว้า พอเข้ามาถึงด้านในรถจอดเยอะมาก คนที่นี่มากินกันเรียกได้ว่าแน่นขนัด รถติดกันด้านในเลยแหละครับ ร้านนี้ชื่อว่า Secret Pizza

ผมพักที่โรงแรมโซฟิเทล 1 คืน แล้วอีกคืนผมมาพักที่นี่ครับ 3 Nagas MGallery by Sofitel

โรงแรมนี้อยู่ใจกลางเมืองของหลวงพระบางเลยครับ โรงแรมมีขนาดเล็กพอสมควร ห้องพักมี 20 ห้องเท่านั้น ใครจะมาต้องจองเนิ่นๆ หน่อยนะ ตัวโรงแรมแบ่งเป็น 2 ฝั่งครับ จะเป็นห้องพักและห้องอาหารซึ่งติดอยู่ริมถนนเลย

ผมพักและทานอาหารอยู่ฝั่งตรงข้ามครับ จะเป็นฝั่งนี้

อาหารที่นี่บอกเลยว่าอร่อยจริง เมนูเด็ดของเค้าคือเนื้อควายครับ อันนี้ผมไม่ถนัดเลยต้องขอผ่าน แต่เมนูอื่นๆ ที่ได้ลองต้องบอกเลยว่า ต้องลองมาทานกันดูครับ

เครื่องดื่มและของหวานก็เด็ดไม่แพ้อาหารครับ

เอาภาพห้องที่ผมพักมาฝากกันครับ

มาดูอาหารเช้าของที่นี่กันบ้าง คือไม่ใช่เป็นไลน์บุฟเฟ่ต์นะครับ แต่สามารถสั่งได้ตลอด อาหารเช้ายังอร่อยเลย ยังคิดว่าอาาหรเช้าเค้าทำมาเหมือนข้างนอกเค้าขายเป็นจานๆ เลยเนอะ

โรงแรม 3 Nagas MGallery by Sofitel ใครมาพักที่นี่ไม่ต้องไปเที่ยวไหนไกลเลยครับ เพราะเค้าอยู่ใจกลางเมือง แหละท่องเที่ยวหรือร้านอาหารก็อยู่ละแวกใกล้ที่สามารถเดินหรือปั่นจักรยานไปได้ ( โรงแรมให้ยืมจักรยานฟรี ) เดี๋ยวผมจะพาไปดูนะว่าไปเที่ยวไหนได้บ้าง

ใส่บาตรข้าวเหนียว

ใครมาหลวงพระบางต้องมาใส่บาตรข้าวเหนียวครับ คือไม่ต้องไปไหนไกลเลย เพราะพระจะเดินบิณฑบาตผ่านหน้าโรงแรมนี้เลยแหละ

ถนนคนเดิน

เป็นถนนเดินตอนกลางคืนครับ ใครมาก็ต้องมาเดินที่ถนนนี้เนอะ มีทั้งของใช้ ของที่ระลึก เสื้อผ้า ของกิน ของฝาก เยอะแยะมากมาย จากโรงแรมสามารถเดินไปที่ตลาดนี้ได้เลยครับ

วัดเชียงทอง

ซึ่งเป็นวัดที่สำคัญและมีความงดงามที่สุดแห่งนี้ จนได้รับการยกย่องจากนักโบราณคดีว่าเป็นดั่งอัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมลาว วัดเชียงทองถูกสร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช

ใครมาหลวงพระบางก็ต้องมากราบไหว้ครับที่วัดนี้ สามารถเดินมาจากโรงแรม 3 Nagas MGallery by Sofitel ได้เช่นกัน ไม่ไกลเลยครับ

ทริปนี้ขอปิดท้ายด้วยร้าน ส้มตำเจ๋ติ๋ม  ที่อยู่ใกล้โรงแรม 3 Nagas MGallery by Sofitel ม๊ากก เรียกว่า 100 – 200 เมตรเอง

ร้านนี้ถ้าจะไม่ให้พูดถึงก็คงไม่ได้แล้วแหละ บอกเลยอร่อยทุุกอย่างจริงๆ โดยเฉพาะส้มตำหลวงพระบาง คืออร่อยจนตกยกมือให้ ไม่เคยกินส้มตำอร่อยขนาดนี้มาก่อนพูดแบบไม่อายเลย ใครไปแล้วไม่ได้ไปกินนี่เรียกว่า มาไม่ถึงหลวงพระบางจริงๆ นะ

Comments

comments