Skip to content

เที่ยวสบาย 9Booking


ร้อนนัก…รักนะ HOKKAIDO ( Kiroro Resort )

ร้อนนัก…รักนะ HOKKAIDO ( Kiroro Resort )

” ร้อนนัก … รักนะ Hokkaido “

Hokkaido คือทางเหนือของเกาะญี่ปุ่นฮะ ผมไปเยือนที่นี่เป็นครั้งที่ 2 แล้ว แต่แปลกที่ไปทุกทีเป็นหน้าร้อนทุกครั้งเลย 555 ถ้าถามว่าฮอกไกโดควรไปช่วงไหนที่สุด ? แน่นอนว่าร้อยทั้งร้อยก็ต้องบอกว่าช่วง ” หิมะ ” สิ เพราะเป็นจุดขายของเค้าหนิ แต่สำหรับผมนะฮอกไกโดควรไปเที่ยวอยู่ 2 ฤดูฮะ คือ ฤดูหนาวกับฤดูร้อน ส่วนฤดูหนาวก็คือหิมะกับใบไม้เปลี่ยนสีทุกคนก็พอจะรู้ๆ กันอยู่แล้วมั้ง แต่ถ้าฤดูร้อนหละ ? อาจจะยังนึกภาพกันไม่ออกและก็คงมีคำถามว่า จะไปทำไมอ่ะฤดูร้อนของญี่ปุ่นบางทีร้อนพอๆ กับเมืองไทยเลยมั้ง มีอะไรเที่ยวด้วยหรอ จองทั้งทีก็ไปช่วงสวยๆ เลยไม่ดีกว่าหรอ ถ้ามีใครคิดแบบนี้ดีดนิ้วตัวเองหนึ่งที เพราะคุณคิดผิดแล้วนาจา เพราะงั้นรีวิวนี้จะพาเพื่อนๆ ไปทำกิจกรรมและเที่ยวหน้าร้อนของฮอกไกโดกันดีกว่า บางทีรีวิวนี้อาจจะเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับฮอกไกโดของเพื่อนๆ ไปเลยก็ได้

ทริปนี้ผมมุ่งหน้าสู่ Kiroro Resort หรือที่ทุกคนรู้จักกันดีในหนังเรื่อง “แฟนเดย์ “ ที่ทำให้คนไทยได้รู้จัก Kiroro แบบเปรี้ยงปร้างเพียงชั่วข้ามคืนจนเป็นคำฮิตติดปากว่า ” ตามรอยแฟนเดย์ “ เป็นโรงแรมรีสอร์ทที่ช่วงหน้าหนาวหิมะหนาและสวยมาก เป็นอีกหนึ่งโรงแรมสุดแสนจะโรแมนติก และเป็นจุดเล่นสกีรีสอร์ทดังอันดับต้นๆ ของที่นี่ด้วย

 

iygcu5

แล้วถ้าเป็นหน้าร้อนหละที่ Kiroro Resort น่าเที่ยวมั้ย ? ที่นี่เค้ามีกิจกรรมตลอดทั้งปีฮะ ไม่ว่าคุณจะมาช่วงไหน เค้าจะมีกิจกรรมหรืออีเว้นท์ต่างๆ ให้คุณทำแน่นอนไม่ต้องห่วง เพียงแต่คุณแค่มาพักที่นี่เท่านั้น เค้ามีทั้งหมด 2 โรงแรมอยู่ใน Kiroro Resort คือ Sheraton Hokkaido Kiroro Resort กับ The Kiroro, a Tribute Portfolio Hotel, Hokkaido ซึ่งทั้ง 2 โรงแรมนี้อยู่ในเครือเชนใหญ่อย่าง Marriott และครั้งนี้ผมได้มาพักเฉพาะโรงแรม The Kiroro, a Tribute Portfolio Hotel, Hokkaido เลยขอเอารีวิวโรงแรมนี้มาให้ชมกันเนอะ

สำหรับการเดินทางมา Kiroro Resort ถ้าไม่มีรถส่วนตัวขับมาก็สามารถจองรถบัสมาที่นี่ได้เลย แต่ต้องบอกก่อนนะฮะว่าไม่ได้ฟรีมีค่าใช้จ่ายในการใช้บริการ ทั้งจากสนามบิน New Chitose Airport , Sapporo หรือจาก Otaru Chikko สามารถไปศึกษาและจองได้ตามลิ้งค์นี้  https://www.kiroro.co.jp/access-summer/

sheHKDSIex-265179-Exterior-Med

Marriott International Hotel

 

พามาชมโรงแรม The Kiroro, a Tribute Portfolio Hotel, Hokkaido ในส่วนของล็อบบี้กันก่อนฮะ กว้างขวางและโอโถ่งมาก โรงแรมจะออกแนวยุโรปไม่มีความเป็นญี่ปุ่นเลย ก็ตามสไตล์ความเป็นฮอกไกโดนี่แหละที่จะอิงทางยุโรปมากกว่า

 

DSC09445DSC09507-2 DSC09478-2 DSC09457 DSC09455 DSC09453 DSC09475 DSC09474-2 DSC09467-2 DSC09468-2 DSC09451-2 DSC09441-2 DSC09444-3

 

ห้องพัก Type แรกๆ ของที่นี่ก็มีพื้นที่กว้างละนะ ไม่อึดอัดไม่คับแคบเหมือนกับโรงแรมในเมือง มาเป็นคู่หรือมาเป็นครอบครัวสบายๆ เลยนะ ตัวห้องน้ำก็กว้างแยกที่อาบน้ำ แยกอ่างล้างมือและห้องส่วมไว้ชัดเจนเลย เตียงนอนกับหมอนนอนสบายสุดๆ

 

DSC0915311DSC09148DSC09145

 

พาเดินออกมาเที่ยวข้างนอกตัวอาคารโรงแรมกันต่อเลยเนอะ ภายนอกนี้ตอนแรกเดินออกมาเห็นแว๊บแรกนึกว่า outlet 555 จริงๆ แล้วคือมีหลายอย่างมาก ทั้งลานกิจกรรม ซุปเปอร์มาเก็ต ที่ขายของใช้ ขายของฝาก ออนเซ็น Game park สระว่ายน้ำ ฟิตเนส รวมอยู่ตรงนี้กันหมดเลยฮะ

 

DSC09493-2 DSC09505-3 DSC09485 DSC09502-2 DSC09499 DSC09204 DSC09843-2

 

มีซุปเปอร์ขายทั้งของกิน ของใช้ ของฝาก อยู่ในนี้เลย แต่ราคาก็แพงกว่าข้างนอกประมาณ 1-2 เท่า ยังไงก็ลองเช็คดูนะ เพราะออกไปข้างนอกก็เป็นป่าทั้งหมดไม่มีร้านค้าให้ซื้ออะไรเลย หรือไม่ก็ต้องซื้อเตรียมเข้ามาเองก็อาจจะลำบากอีก

 

DSC09205 DSC09207

 

Onsen ที่นี่ขนาดใหญ่ไม่แพ้ใครแน่นอน มีทั้งแบบแบ่งชาย-หญิง และบ่อรวม แต่ไม่ต้องคิดไปไกลนะบ่อรวมไม่ต้องถอดหมดเหมือนบ่อแยกชายหญิงนะจ๊ะ แหม๋

สำหรับแขกที่มาพักโรงแรมไม่ได้แช่ฟรีนะแต่ราคาจะถูกกว่าแขกข้างนอก ถ้าผู้ใหญ่ จะราคา 1,000 เยน เด็ก 700 เยน ( สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ฟรีอยู่แล้ว )

แต่ถ้าเป็นแขกด้านนอกที่ไม่ได้มาพักกับโรงแรม ผู้ใหญ่จะ 1,200 เยน ถ้าจะใช้สระว่ายน้ำ+ฟิตเนสด้วยจะรวม 2,000 เยน เด็กออนเซ็นอย่างเดียว 800 เยน สระว่ายน้ำ+ฟิตเนสด้วย 1,500 เยน

เปิดบริการ 15.00 – 23.00 น.

 

DSC09211-2

 

ตรงนี้เป็นออนเซ็นบ่อรวมแบบโอเพ่นแอร์ บอกเลยว่าฟินมาก ดูมีความเป็นธรรมชาติสุดๆ เพราะเป็นบ่อรวมก็เลยไม่ต้องแก้ผ้าหมดแช่แบบสบายๆ ไม่ต้องอายเลย

 

DSC09839-2 DSC09841-2

 

ส่วนบ่อที่แยกชาย หญิง ก็จะเป็นทั้งแบบในร่ม และแบบด้านนอกโอเพ่นแอร์เหมือนกัน บ่อนี้ต้องถอดหมดนะฮะ

 

DSC09823 DSC09829 DSC09824 DSC09817 DSC09813-2

 

ด้านในมีเก้าอี้นวดไฟฟ้าให้บริการฟรีด้วย จ่ายตังค์ตอนแช่ทีเดียวจบไม่ต้องจ่ายเพิ่มแล้วนวดได้ทั้งวัน

 

DSC09803 DSC09806 DSC09796 DSC09798

 

สระว่ายน้ำของเค้าจะไม่เหมือนประเทศไทยเนอะเพราะจะมีหลังคาปิดทั้งหมดเพราะเจอหน้าหนาวเข้าไปสระคงเป็นน้ำแข็งแน่ๆ 555

 

pooljacuzzi1 pool

 

อีกกิจกรรมที่อยากแนะนำเลยคือ Game Park ที่ชื่อ Granship เป็นห้องกิจกรรมทั้งสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ที่สามารถเล่นได้กันหมด ยิ่งเป็นแนวครอบครัวยิ่งเหมาะ ถ้าให้บอกว่ามันคืออะไรก็คงเหมือน คิดส์คลับของโรงแรม + กับร้านตู้เกมส์ในห้างสรรพสินค้านี่แหละฮะ ข้อดีของที่นี่ก็คือ เสียค่าเข้าคนละ 1,000 เยน  ถ้ามาเป็นครอบครัว 3-4 คนเหมาจ่าย 2,500 เยน (  เด็กต่ำกว่า 3 ขวบเข้าฟรี )  แถมไม่จำกัดเวลา สามารถเล่นทุกอย่างได้หมด ไม่ต้องหยอดเหรียญหรือเสียตังค์เพิ่มอีกแล้ว อยากเล่นอะไรเล่นได้หมดทุกอย่าง

เปิดตั้งแต่เวลา 15.00 – 21.00 น.

 

DSC09559 DSC09549 DSC09546 DSC09542 DSC09529 DSC09536 DSC09219 DSC09218 DSC09222 DSC09214 DSC09540

 

เพื่อสุขภาพสายโยคะก็มีนะ อยากลองดูบ้างมั้ยว่ามาทำโยคะที่ญี่ปุ่นจะเป็นยังไงบ้างน้าา ราคาเริ่มต้น ที่ 2,000 เยน

 

DSC09567 DSC09578 DSC09587

 

และมาที่นี่ทั้งทีไม่ขี้นกระเช้าไฮไลท์ของเค้าก็จะยังไงอยู่ ราคากระเช้า Gondola ถ้าแบบไป-กลับ 1,500 เยน เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบไม่ต้องเสียนะจ๊ะ จริงๆ ช่วงหิมะเจ้ากระเช้านี้แหละจะเป็นจุดพาขึ้นไปบนลานสกี แต่พอเข้าหน้าร้อนก็เป็นจุดชมวิวสวยๆ

 

DSC09693 DSC09698

 

มาเพื่อลั่นระฆังรักแห่งนี้ แหละจ้า ด้านบนอากาศจะเย็นกว่าข้างล่างอย่างเห็นได้ชัด อากาศดีมาก ลมเย็นๆ พัดมาเป็นระยะๆ อากาศแบบนี้ วิวแบบนี้ กับทุ่งหญ้าและดอกไม้ น่าจะเอาอาหารมานั่งปิกนิกด้านบนนี้ก็คงดีไม่น้อยเลย

 

DSC09709 DSC09732 DSC09758

 

SEGWAY

อีกหนึ่งกิจกรรมที่อยากแนะนำเลยฮะ ไปลองมาแล้วสนุกมากคือเล่นไม่ยากแต่ต้องใช้เวลาฝึกประมาณ 20 นาที เค้าจะมีคนมาช่วยสอนช่วยเทรนเราด้วยฮะ พอเราโอเคทุกอย่างแล้วเค้าจะพาเราขับเข้าป่าไปชมธรรมชาติด้านในและเรียนรู้ธรรมชาติของที่นี่ ราคาเริ่มที่ 20 นาที 2,500 เยน ถ้า 40 นาที 4,500 เยน

เปิด 09.30 – 17.00 น.

 

DSC09522 DSC09523 DSC09518 DSC09513 DSC09509-2

 

Buggy

ราคาอยู่ที่ 20 นาที 2,500 เยน ถ้า 40 นาที 4,500 เยน อีกหนึ่งกิจกรรมที่แนะนำว่าต้องมาทำฮะ มันเป็นกิจกรรมแอดเวนเจอร์ที่เราจะได้เห็นความสวยงามและธรรมชาติของประเทศนี้ โดยจะมีครูชาวญี่ปุ่นคอยสอนและเป็นผู้นำพาเราไปยังจุดต่างๆ ตามทางที่กำหนดไว้

 

DSC09173 DSC09182 DSC09189 DSC09184 DSC09160 DSC09162-2 DSC09225

 

ที่ Kiroro เค้าไม่ได้มีกิจกรรมเฉพาะในพื้นที่ของโรงแรมเท่านั้นนะ ยังมีกิจกรรมภายนอกด้วยอย่างไปพายเรือ Kayak และ paddle board 2 กิจกรรมนี้ยิ่งเข้าใกล้ชิดธรรมชาติของที่นี่เข้าไปอีก โดยทางโรงแรมจะมีรถพาเราจะเรียกว่าในป่าเลยก็ว่าได้นะ มาจุดที่เค้ามีพนักงานมารอเราเพื่อทำกิจกรรมกันครับ บอกเลยว่าอากาศถือว่าไม่ร้อน น้ำเย็นม๊ากกก ใจอยากจะกระโดดน้ำเล่นตรงนั้นเลยแต่ขี้เกียจเปลี่ยนชุด 555

พายเรือคายัค ราคาเริ่มต้นที่ 4,800 เยน/1คน/เรือ1ลำ แต่จะถ้าจะนั่งเพิ่มอีก 1 คนจ่ายเพิ่มอีก 2,000 เยน ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชั่วโมงสำหรับกิจกรรมนี้

STAND UP PADDLE  ใช้เวลาประมาณ 90 นาที ราคาคนละ 4,800 เยน

 

DSC09261 DSC09264 DSC09268 DSC09272 DSC09291 DSC09327 DSC09304 DSC09332 DSC09330 DSC09354 DSC09343

 

หลังจากพายเรือกันเหนื่อยๆ แวะเที่ยวกันต่อที่ HOPI Hills เหมือนเจ้าของจะเป็นต่างชาติ ทำเป็นจุดท่องเที่ยวคล้ายๆ ฟาร์มทางยุโรป มีทั้งนกกระจอกเทศ เป็ด แกะ แพะ กระต่าย ที่เราสามารถซื้อาอาหารมาป้อนมันได้ ถ้ามีเด็กๆ มาด้วยแนะนำมาที่นี่ นอกจากให้อาหารสัตว์ต่างๆ แล้ว ยังเปิดเป็นร้านอาหารด้วยนะฮะ ที่ได้ลองคือข้าวแกงกระหรี่กับพิซซ่า แนะนำ ” สั่งพิซซ่า ” เท่านั้น อร่อยมากจริงๆ ชีสอัดแน่นและเข้มข้นสุด

 

DSC09429 DSC09427 DSC09415 DSC09406 DSC09403 DSC09393 DSC09391 DSC09389 DSC09386 DSC09424 DSC09421 DSC09440 DSC09438 DSC09434

 

ก่อนกลับโรงแรมแวะทานไอติมกันก่อนเนอะ ฮอกไกโดขึ้นขึ้นเรื่องนมกับไอติมอยู่แล้วที่จะหอม หวาน มัน กว่าที่อื่น และที่ร้าน YAMANAKA Dairy Farm ก็ไม่ทำให้ผิดหวังครับ ถือเป็นร้านขายไอติมและนมที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติและขุนเขาของแถวนี้เลย

 

DSC09359 DSC09363 DSC09365 DSC09371 DSC09380

 

ส่วนอาหารเย็นถ้ากลับมาแล้วไม่รู้จะทานอะไร อยากจะหาที่นั่งทาน BBQ บรรยากาศดีๆ สบายๆ ก็ตรงลานกิจกรรมเลยฮะ แต่ต้องจองล่วงหน้าและจะมีช่วงหน้าร้อนเท่านั้น

เปิด-ปิด : 16:00 – 19:30 น.

ราคาเซตสำหรับผู้ใหญ่ : 5,000 เยน

เซตเมนูของเด็ก : 3,500 เยน

 

DSC09560 DSC09253 DSC09256 DSC09251

 

คนที่คิดจะมาพักที่นี่อาจจะอยากเห็นและอาจจะยังไม่เคยเห็นอาหารเช้าของที่นี่กันใช่มั้ยหล่ะ ผมก็พยายามหารีวิวก็ยังไม่ค่อยเห็นเหมือนกันแต่รีวิวนี้จะพาไปชมอาหารเช้าของที่นี่กันแบบไม่มีกั๊กเลย ถือว่าเป็นโรงแรมที่มีอาหารเช้าดีมาก แต่อย่าเทียบกับอาหารเช้าโรงแรมของไทยในระดับเดียวกันนะเพราะเมืองไทยเรื่องอาหารเช้าโรงแรมคือจัดเต็มและดีกว่าประเทศอื่นเค้าอยู่แล้ว แต่ประเทศญี่ปุ่นเรื่องอาหารเช้าเค้าจะไม่ค่อยหวือหวาเท่าเรา แต่สำหรับที่นี่ถือว่าโอเคเลยฮะ มีอะไรให้เลือกทานเยอะดี ละดีกว่าหลายๆ ที่ที่ผมเคยไปมา

 

DSC09674-2 DSC09670 DSC09667-2 DSC09669-3 DSC09621 9 8 1 6 7 4 DSC09660 DSC09661 DSC09651 DSC09655 3 2

 

มีไอติมซอฟครีมให้กดแบบไม่อั้นด้วย จัดไอติมให้ทานแต่เช้ากันเลย แถมมีท๊อปปิ้งให้ตักไม่อั้นเช่นกัน อย่าว่าแต่เด็กๆ เลย ผู้ใหญ่อย่างเรายังชอบเลยครับ ขนาดไอติมในไลน์อาหารเช้ายังอร่อย สมเป็นฮอกไกโดจริงๆ

 

5

 

และที่ประทับใจและชอบในบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าเค้าก็คือตู้กดน้ำนี่แหละ มีทั้งเป๊บซี่แบบหวานและซีโร่ กาแฟยี่ห้อ Boss เจ้าดังของเค้า ชาลิปตั้น Ginger Ale น้ำเขียวโซดา คาพิคและโตะ ก็มี

 

DSC09654 DSC09653 DSC09652 DSC09689 DSC09691 DSC09681

 

ส่วนใครเบื่ออาหารของโรงแรม The Kiroro, a Tribute Portfolio Hotel, Hokkaido ลองข้ามไปทานร้านอาหารญี่ปุ่นของโรงแรม Sheraton Hokkaido Kiroro Resort กันดูฮะเค้ามีรถรับส่งตลอดทั้งวัน เป็นอาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับ ชื่อห้องอาหาร ” Hokki Japaness “ ของทะเลสดม๊ากกก เรื่องความสดต้องยกให้จริงๆ เค้าคัดมาอย่างดี ไข่หอยเม่นคือที่สุดฮะ ปิดท้ายด้วยเมล่อนหวานและฉ่ำมากถ้าไม่กินถือว่ามาไม่ถึงฮอกไกโดนะ

 

DSC09607 DSC09608 DSC09599 DSC09600 DSC09593 DSC09612 DSC09595 DSC09592 DSC09615

 

ทำกิจกรรมและพักผ่อนที่ Kiroro กับเสร็จแล้ว มีแค่นี้หรอ ? หน้าร้อนที่ฮอกไกโดมีแค่นี้จริงๆ หรอ ?

ยังฮะ ไฮไลท์หน้าร้อนยังไม่จบ ถ้าไม่เที่ยวเทศกาลทุ่งดอกไม้และลาเวนเดอร์ของฮอกไกโดอย่าเรียกว่ามาฮอกไกโดหน้าร้อน

แต่ที่รู้กันว่าฮอกไกโดยังคงความเป็นธรรมชาติอยู่เยอะ เพราะงั้นสถานที่ท่องเที่ยวส่วนมากไกลจากสถานีรถไฟต้องเดินเยอะมาก ไม่ก็ต้องนั่งแท๊กซี่ไปซึ่งก็แพงมากรู้ๆ กันอยู่ อากาศก็ร้อนพอๆ กับบ้านเรา ถ้าให้แนะนำควรเช่ารถขับถึงจะเที่ยวครบ บางที่ต้องขับรถไปเองเท่านั้น

ทริปนี้ผมไปกับเพื่อนเยอะประมาณ 6-7 คน เลยลองใช้บริการเช่ารถตู้พร้อมคนขับ แบบ one day trip คนขับเป็นคนญี่ปุ่นแต่พูดอังกฤษได้ดี บริการเยี่ยมแถมยังคอยถามว่าจะให้ลงไปช่วยถ่ายรูปให้มั้ย บอกได้นะ ยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลา

ถ้าลองคำนวนดูแล้วจะตกคนละประมาณ 2,000+- แลกกับความสบายไม่ต้องขับรถเอง ถือว่าโอเคเลยนะ

ราคานี้รวมอะไรบ้าง ?

– บนรถมี Wi-fi ไม่อั้น
– มีสายชาร์จมือถือให้
– มีน้ำดื่มฟรีคนละขวด
– รวมค่าทางด่วนแล้ว
– รวมค่าน้ำมันรวมหมดแล้ว
– อาหารคนขับเค้าหาทานเอง

ถ้าสนใจสอบถามไปที่ไลน์ไอดี @hokkaidoman ไม่ต้องห่วงเรื่องภาษาเพราะคนไทยฮะ แถมเค้ายังวางแพลนเที่ยวให้เราด้วยโคตรสบายเลย เลยขอเอาทริปที่เค้าวางแผนล่าสุดของผมมาให้ดูละกันเนอะ

 

DSC00069-2

 

จุดที่ 1

มุ่งหน้าสู่ Farm Tomita ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องดอกลาเวนเดอร์ และทุกดอกไม้ มีอยู่ 2-3 ทุ่งเลย ตรงนี้สวยมากแนะนำให้มาเป็นที่แรกเพราะทัวร์ลงเยอะ เช้าๆ จะได้ถ่ายรูปสวยๆ

 

DSC09847 DSC09848 DSC09851 DSC09864-2 DSC09858-2 DSC09880 DSC09887-2 DSC09874

 

จุดที่ 2

Shikisai no oka สวนดอกไม้ชื่อดังของเมือง biei เค้าหล่ะ เนื้อที่กว้างมากทุ่งดอกไม้กว้างๆ ถ่ายรูปสวยมาก มีแบ็คกราวน์เป็นภูเขายาวๆ ด้านหลัง ใช้เวลาที่นี่นานหน่อยเพราะเนื้อที่เยอะมีมุมถ่ายรูปเยอะ แถมทัวร์ก็ลงเยอะเช่นกัน

 

DSC00034-2 DSC00020-2 DSC00027-2 DSC09947-2 DSC09967-2

 

จุดที่ 3

Yoshida Melon Farm แวะฟาร์มเมล่อนกันหน่อยเดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง กินไอติมนมหอมๆ โปะบนแมล่อนครึ่งลูก หรือใครจะซื้อเมล่อนเป็นลูกกลับมาก็ได้นะราคาไม่แพง

 

DSC09900-2 DSC09910-2 DSC09907 DSC09908 DSC09901 DSC09906

 

จุดที่ 4

Blue Pond สระน้ำสีฟ้าใสๆ และนิ่งสงบ มีมุมถ่ายรูปไม่เยอะ แต่ถามว่าสวยมั้ยผมก็ว่าสวยนะ น่าแวะถ่ายรูปสัก 10 – 20 นาทีก็น่าจะพอ

 

DSC00064-2 DSC00063 DSC00042

 

จุดที่ 5

Ken & Marry Tree ต้นไม้ดังแห่ง Biei ดังมาจากโฆษณารถยนตร์ตรงนี้แวะแป๊บเดียวพอเพราะไม่มีอะไรเลย มีแค่ต้นไม้เด่นๆ อยู่ต้นเดียว

 

DSC09915

 

จุดที่ 6

Shirohige Waterfall น้ำตกสีฟ้า ใสๆ ถ้าให้เทียบกับน้ำตกของประเทศเราแน่นอนว่าของเรากินขาด แต่น้ำตกของที่นี่ชนะเรื่องความใสและสีฟ้าๆ ของน้ำนี่แหละ แวะ 20 นาทีก็น่าจะพอ

 

bsh

bsh

 

ทริปนี้ยาวนานทั้งวัน แต่ไม่เหนื่อยเพราะเราเที่ยวอย่างเดียว แต่ที่เหนื่อยคือคนขับรถ 555 แต่ถึงจะเหนื่อยแค่ไหนก็ไม่มีบ่นเลย ยิ้มตลอด น่ารักมาก ณ จุดนี้ก็สมควรทิปให้เค้าคนละนิดหน่อยเพื่อเป็นกำลังใจเนอะ

จริงๆ เรามีจุดแวะเที่ยวอีกประมาณ 2-3 จุด ด้วยกันแต่ไม่ได้เอามาลงเพราะว่าตอนไปคือไปช่วงลาเวนเดอร์เริ่มหมดแล้ว หรือบางที่พอไปถึงดูไม่น่าสนใจผมเลยแวะแป๊บเดียวแล้วไปต่อเลย เอาเป็นว่าใครสนใจลองให้เค้าจัดโปรแกรมดู เที่ยวสบาย ไปครบและไม่เหนื่อยด้วย ถ้าไปเองบางที่ไปเองไม่ได้ต้องเช่ารถไปเท่านั้นก็มี

 

แล้วรู้กันยัง ??

เดี๋ยวนี้ไปฮอกไกโดไม่ต้องจ่ายค่าเครื่องแพงอีกแล้วนะ ครั้งนี้เราใช้บริการของสายการบิน ” AirAsia X “ มีโปรออกมาบ่อยๆ บางช่วงแทบจะออกทุกสัปดาห์เลย 555 ไป-กลับ ประมาณ 6-8,000 บาท ก็สามารถนั่งบินตรงไปถึงฮอกไกโดได้แล้ว เอาจริงๆ เราบินไปสมุยยังแพงกว่านี้เลย แถมไฟร์ทบินก็น่ารักบินกลางคืนไปถึงฮอกไกโดเช้าเที่ยวต่อได้  ส่วนห้องโดยสารนั่งสบายระดับนึงเลยถ้าไม่ตัวใหญ่จนเกินไปนะ เครื่องลำใหญ่กำลังดี นั่งแบบ 3-3-3 

 

DSC09131 DSC09133DSC00074DSC00071

 

 สรุปปิดท้าย

     การไปเที่ยวฮอกไกโดช่วงหน้าร้อนถือว่าเป็นอีกหนึ่งการท่องเที่ยวสำหรับคนที่ไม่ชอบอากาศหนาวมากๆ แบบช่วงหิมะ คือจริงๆ มันจะมีช่วงอากาศเย็นๆ สบายๆ แหละ แต่ไปแล้วไม่เห็นอะไรเลยไม่มีอะไรเที่ยวก็ไม่อยากแนะนำ แต่ถ้ามาช่วงหน้าร้อนถ้ายอมร้อนหน่อยแต่จะตรงกับช่วงเทศกาลดอกไม้โดยเฉพาะทุ่งลาเวนเดอร์ที่ใครๆ ไปมาต่างก็ชมว่าสวนที่นี่สวยมาก คุ้มค่าที่จะมาชมกันและที่สำคัญแทบทั้งหมดเข้าฟรีไม่ต้องเสียค่าเข้า 555 แต่จะไปโดนค่าไอติมเมล่อน ไอติมลาเวนเดอร์ หรือแม่กระทั่งน้ำ Cider ลาเวนเดอร์ก็มา และเนื้อเมล่อนสดๆ หวานฉ่ำก็มี ยังไงลองแพลนกันดูฮะ หนีจากความหนาวของหิมะมาเจอความสวยของทุ่งดอกไม้บ้างก็คงจะดีเนอะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Comments

comments

Leave a Reply