The Regent Cha Am Beach Resort
” The Regent Cha Am Beach Resort ( เดอะ รีเจ้นท์ โรงแรมชะอำ บีช รีสอร์ท ) “
เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่กว่า 50 ไร่ ริมทะเลหาดชะอำ-หัวหิน ชื่อโรงแรมแห่งนี้ถ้าใครเคยไปพักชะอำ-หัวหิน บ่อยๆทุกคนคงรู้จักกันหรือเคยได้ยินชื่อของที่นี่กันมาบ้าง เพราะว่าเป็นโรงแรมเก่าแก่ที่เปิดมานานพอสมควร แต่เมื่อปีที่แล้วมีการรีโนเวทขึ้นมาใหม่ ทันสมัยและน่าพักมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะ เพิ่มความหรูหรา ทันสมัย และเพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้น แต่โรงแรมยังคงเน้นความร่มรื่นที่จุดนี้เป็นจุดเด่นของโรงแรมแห่งนี้อยู่แล้วไว้เหมือนเดิม
ในส่วนของตัวโรงแรมจะแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ Main wing และ Regency wing สำหรับวันนี้ผมจะขอมารีวิวส่วนของ main wing เพราะเพิ่งจะมีการรีโนเวทใหม่ครับ
เดี๋ยวเราไปดูกันว่าที่นี่มีอะไรเปลี่ยนแปลงกันบ้าง แต่ก่อนจะไปชมภาพและรีวิว ขอเชิญชม VDO Present ของโรงแรมที่ผมได้ไปถ่ายมากันก่อนครับ
สำหรับการเดินทาง ชะอำ-หัวหิน ไม่ยากเลย
มาถึงส่วน Lobby ของที่นี่จะมีไม่มีแอร์นะ จะเปิดโล่ง โชว์ความใหญ่อลังการของโรงแรมได้เป็นอย่างดี ถึงจะไม่มีแอร์แต่บรรยากาศโดยรวมน่านั่ง น่าพักผ่อนมากๆ
เราไปชมไฮไลท์ของที่นี่กันเลยแบบไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง คือ ” สระว่ายน้ำ ” ของที่นี่ มีการรีโนเวทใหม่ให้เห็นอย่างชัดเจน โดยการเปลี่ยนให้มีสีสีนและมีขนาดที่ใหญ่มากกกกก มาพร้อมกับการออกแบบที่ทันสมัย แต่ยังเน้นวิวทะเลให้เห็นเหมือนเดิม
มาดูส่วนของห้องพักกันครับ
Anavana (42 sqm)
เป็นห้องพัก Villa เป็นหลังๆในสวน บรรยากาศร่มรื่น ที่สำคัญสามารถเดินลงทะเลเพียงไม่กี่ก้าว ห้องมีขนาดกว้างขวางพอสมควร สามารถนอนดูวิวทะเลได้ ในห้อง type นี้จะมีอ่างจากุชชี่ไว้ให้บริการด้วย
Regency Family Suite (84 sq.m)
ห้องที่เหมาะสมกับการมาพักแบบครอบครัวเป็นอย่างมาก จะแบ่งเป็น 2 ห้องที่สามารถ connecting กับห้องของพ่อแม่ได้ มีขนาดกว้างขวาง ห้องของพ่อแม่ว่าน่าพักแล้ว เจอห้องของน้องๆเข้าไปในการตกแต่ง เด็กๆหลายๆคนคงชอบ
Deluxe (32 sqm)
เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่พอสมควร และสามารถเห็นทะเลได้ทุกห้อง แต่จะเห็นมากเห็นน้อยต่างกับไปในแต่ละห้อง แถมยังมีระเบียงขนาดกว้างไว้ให้แขกที่มาพักได้เปลี่ยนบรรยากาศในการนั่งพักผ่อนอีกด้วย
Breezy Bar (Lobby bar)
ตั้งอยู่บริเวณล็อบบี้ของโรงแรม บริการเครื่อง ดื่ม กาแฟ ชา ค็อกเทลหรอเบียร์ ต่างๆ รวมถึงเค้กและ pastry จุดเด่นของมุมนี้คืออะไร ถ้ามองด้วยตาเปล่าอาจจะเฉยๆนะกับ Breezy Bar แต่ที่สำคัญของส่วนนี้คือลมจากทะเล ที่พัดเข้ามาเย็นแทบจะตลอดเวลา เป็นที่โปร่งโล่ง นั่งสบาย
Peppina On the Beach (เปปปินา ออน์ เดอะ บีช)
อีกหนึ่งไฮไลท์ของทางโรงแรมที่มีการสร้างขึ้นมาใหม่ โดยเฉพาะคนกรุงเทพถ้าเห็นชื่อนี้บางท่านคงถึงบางอ้อ สำหรับสาวกอาหารอิตาเลี่ยนเพราะเป็นร้านดังจาก กทม. ถึงขนาดต้องจองกันล่วงหน้ากันเลยทีเดียว แต่ที่โรงแรมแห่งนี้ได้ยกร้านอาหารอิตาเลี่ยนเจ้าดังเจ้านี้มาไว้ริมทะเลชะอำ-หัวหิน ซะเลย
ร้านนี้ต้องลองเลยคือ ” พิซซ่า ” แป้งอร่อยมาก เป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้คนติดใจ ผมโดนมาละบอกเลยมีครั้งต่อไปแน่นอน ราคาก็ไม่ได้แพงกว่าพิซซ่าทั่วไปสักเท่าไหร่
สำหรับใครชอบทานอาหารอิตาเลี่ยนอร่อยๆแบบของแท้ ดั้งเดิม สไตล์นาโปลี ที่มาจากทางตอนใต้ของอิตาลี ต้องที่นี่จริงๆ
ซึ่ง ความอร่อยนี้ยังการันตีได้จากความสำเร็จกับรางวัล A.V.P.N (Associazione Verace Pizza Napoletana) ในการรักษาคุณภาพ มาตรฐานของพิซซ่านโปลีทานาดั้งเดิมจากอิตาลี
ร้านเปิดให้บริการทุกวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ 11.00-23.00 น. วันธรรมดา 11.00-22.30 น.
สำหรับอาหารของที่นี่ผมไปลองมาแล้ว ขอบอกว่า ยังติดใจมาถึงตอนนี้เพราะความอร่อยแบบรสชาติดั้งเดิมและต้นตำรับของสไตล์อิตาเลี่ยนนี่แหละ โดยเฉพาะพิซซ่าต้องห้ามพลาดเลยนะ ราคาที่นี่ก็ไมไ่ด้แพงด้วย
Pizza Diavola 450.-
( Spicy Salami , Rocket , and Chili Oil )
Pizza Truffle 580.-
( Taleggio Cheese , Mozzarella , and Fresh Black Truffle )
Lobster Spaghetti 1,500.-
( Whole Canadian Lobster , Spaghetti with Special Tomato Sauce )
Rocket Salad 350.-
( with Apple Pomegranate and Toasted Almonds )
Peppina’s Tiramisu 250.-
A Lemon Tart 290.-
ห้องอาหาร Sakuna (all-day dining)
ให้บริการอาหารเช้าและเปิด ตลอดทั้งวัน เป็นห้องอาหารที่แบ่งเป็น 2 โซนเหมือนกันคือ air และ open air
ภายนอกแบบ open air จะเห็นวิวทั้งสระว่ายน้ำและทะเล นั่งสบาย มีลมทะเลมากระทบตลอด ตอนผมไปก็นั่งทานอาหารเช้าด้านนอกนี่แหละ ไม่ร้อนนะ กำลังสบายเลย
ส่วนด้านในจะเป็นแอร์ครับ นั่งสบายเย็นๆ ห้องอาหารนี้จะบริการอาหารไทยและนานาชาติ มากมายหลากหลายเมนูอยู่ ราคาไม่แพงเลย รสชาติก็อร่อยดีนะ กลมกล่อม รู้สึกได้เลยถึงความใส่ใจในรสชาติของอาหารไทย
ยำส้มโอ
จานนี้โดนมากสำหรับผม คือสิ่งแรกที่เห็นคือจานใหญ่ให้เยอะมาก ตามมาด้วยรสชาติที่กลมกล่อมเข้าเนื้อเครื่องยำ
ปลากระพงผัดฉ่า
สิ่งแรกที่เห็นอีกเหมือนกันคือขนาดและปริมาณที่ให้มาเยอะครับ รสชาติก็เข้าถึงผัดฉ่าจริงๆ ผมทานกับข้าวสวยร้อนๆ ต้องยกนิ้วให้
ผัดผักรวมมิตร
ต้มกุ้งแม่น้ำ น้ำข้น
ที่สั่งมาจะเป็นหม้อ แต่ทางพนักงานจะแบ่งมาเป็นถ้วยให้เราทานได้ง่ายยิ่งขึ้น ส่วนรสชาติต้มยำน้ำข้น ก็เข้มข้นสมชื่อ ต่างชาติคงถูกใจเมนูนี้แน่ๆ
ไก่เสต๊ะไสตล์มาเลเซีย เสริ์ฟพร้อมบักกุเต๋
มาเป็นเซ็ตอย่างนี้เลย ทานได้ 2 ท่าน
ผัดไทกุ้งสด
บอกได้คำเดียว อร่อยมาก อย่างที่ผมเคยบอกว่าถ้าไปโรงแรมต่างๆเมนูผัดไทนี่แหละต้องลองเลย ไม่รู้ทำไมแต่ละโรงแรมทำเมนูผัดไทได้อร่อยกว่าข้างนอกก็ไม่รู้ หรือว่าผมเป็นคนชอบรสชาติแบบกลมกล่อมๆ
ต่อไปมาดูเมนูของหวานครับ มาที่นี่ต้องโดนนะ อร่อยเลย ชอบมาก
ข้าวเหนียวมะม่วง
ทับทิมกรอบ
ไอศกรีมกะทิเสริฟพร้อมท้อปปิ้ง
อย่างที่บอกว่า ห้องอาหาร Sakuna จะเป็นห้องที่ไว้ทานอาหารเช้าด้วย เรามาดูเมนูอาหารเช้าบางส่วนกันครับ ซึ่งมีแต่คนชอบและโอเคกับอาหารเช้าของที่นี่นะ
สรุปสั้นๆและง่ายๆ โรงแรมนี้เป็นตัวเลือกที่ดีครับในการจะมาพักผ่อน ชะอำ-หัวหิน เป็นโรงแรมที่เปิดมานานพอสมควร เรียกได้ว่าหลายสิบปี แต่ทุกวันนี้ยังคงอยู่ได้ด้วยชื่อเสียงของตัวเองจนมาถึงทุกวันนี้จึงไม่ต้องแปลกใจเลยครับ ยิ่งมีการรีโนเวทใหม่ มีความทันสมัย มีความหรูหรา มีความเอาใจใส่ในรายละเอียดมากขึ้น แถมมีความร่มรื่นในตัวและยังคงเอกลักษณ์ความเป็น The Regent อยู่ ขนาดของโรงแรมที่มีขนาดใหญ่จึงไม่เป็นอุปสรรคในการพักผ่อนของเรา เพราะเราสามารถเดินเที่ยวทั่วโรงแรมแบบไม่มีเบื่อเลย
1 comment
Kaylan
The downstairs dog was bleda-neeclkd, leaving Kristen feeling she was almost responsible for its death. When she heard of another Samoyed about to be destroyed she took the dog. That one lived a long life under the name of Kabekona (the name of a beautiful lake in northern MN).