Silavadee Pool Spa Resort ( ศิลาวดี พูล สปา รีสอร์ท )
Silavadee Pool Spa Resort ( ศิลาวดี พูล สปา รีสอร์ท )
อีกหนึ่งรีสอร์ทที่ผมกล้าพูดจากใจเลยฮะว่า ” ชีวิตนึงต้องไปสักครั้ง “ บางคนเห็นคำพูดนี้แล้วอาจจะคิดว่าผมเว่อร์ ขี้โม้ ขี้จุ๊เบ่เบ๊ แต่ลองถามคนที่เคยไปที่นี่กันดูครับว่าสิ่งที่ผมพูดมันเกินเลยจริงๆ รึเปล่า
เอาจริงๆ นะ ที่ศิลาวดีเนี้ย นอกจากจะเป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติแล้วยังเป็นที่รู้จักและเป็น Destination ขอคนไทยด้วย อาจจะเป็นเพราะสไตล์การตกแต่ง เอกลักษณ์ของโรงแรมที่ถูกจริตกับคนไทย และรีสอร์ทสไตล์นี้มีไม่ค่อยเยอะเห็นไม่ค่อยบ่อยในเมืองไทยนะ พอมาเจอที่นี่แบบว่าใช่เลยชีวิตนึงต้องมาให้ได้ ยิ่งเห็นรีวิวที่ผ่านๆ ตามาแล้วเกี่ยวกับการพักผ่อนแบบไพรเวท วิวทะเลสมุยแบบกว้างๆ อีกทั้งบริการที่ทำให้แขกทุกคนพูดถึงไปในทางที่ดีบ่อยๆ บอกเลยฮะว่าที่นี่ไม่มาคงไม่ได้แล้วจริงๆ เพราะตัวผมเองก็เคยได้ยินและได้เห็นชื่อของรีสอร์ทนี้อยู่บ่อยๆ แต่ไม่เคยมีโอกาสได้มาซะที ไหนๆ ได้มาตามความฝันแล้วก็จะขอรีวิวให้เพื่อนๆ ได้ดูเลยแล้วกันเนอะว่ารีสอร์ทนี้เป็นแบบไหนสไตล์ไหนจะได้ตัดสินใจกันถูก
ที่นี่จะมีห้องพักที่อยู่ในตัวตึกกับไพรเวทพูลวิลล่า ซึ่งไฮไลท์ของเค้าก็คือเจ้าไพรเวทพูลวิลล่านี่แหละที่ทั้งคนไทยและต่างชาติมาทั้งทีก็ต้องยอมจ่ายมาเพื่อมาพักห้องแบบนี้เท่านั้น แต่เอาตรงๆ นะถ้างบไม่ถึงจริงๆ พักบนห้องที่อยู่บนตึกก็โอเคแล้วนะสำหรับผม แต่ถ้างบถึงไปพูลวิลล่าคือคำตอบสุดท้าย
ห้องพักทั้งหมดของเค้าจะมี 11 type ด้วยกัน แต่ผมเอามาให้ชมคร่าวๆ สัก 5 แบบละกันเนอะ
SILAVADEE OCEAN FRONT POOL VILLA SUITE
คือห้องไฮไลท์และเป็นห้องที่ดีที่สุด แพงที่สุดของที่นี่ ขนาดปาเข้าไป 300 ตร.ม. พักได้ 4+ คน วิวทะเลแบบ 180 องศา จะแบ่งสัดส่วนเป็น 2 หลังคือ 1 ห้องนอน และ 1 ห้องนั่งเล่น ถ้ามาพักถึง 2 ท่านและสามารถเสริมเตียงได้เพิ่มอีก 2 ท่าน คือส่วนของห้องนั่งเล่นจะปรับเปลี่ยนเป็นอีก 1 ห้องนอนขึ้นมา มีพูลวิลล่าส่วนตัวและจากุชชี่ในสระเลย
อมินิตี้ของโรงแรมใช้แบรนด์ “ปัญญ์ปุริ” (Panpuri) ลักซ์ชัวรี่แบรนด์สัญชาติของไทยแท้ๆ
เช็คอินมาเหนื่อยๆ ไม่ต้องหาอะไรรองท้องเพราะในห้องพักเค้าจะมี welcome กับขนมทานเล่นแบบไทยๆ ให้เราแก้หิวไปพรางๆ ก่อน
OCEAN FRONT POOL VILLA SUITE
ห้องที่รอง top ลงมาจากห้องดีที่สุดก็คือห้องนี่แหละ ขนาดเท่ากันคือ 300 ตร.ม. พักได้ 2 คนและสามารถเสริมเตียงได้อีก 2 ท่าน ห้องแบบนี้จะค่อนข้างต้นไม้เยอะกว่าห้อง SILAVADEE OCEAN FRONT POOL VILLA SUITE วิวห้องนอนจะไม่ค่อยเห็นทะเลเท่าไหร่ แต่สระว่ายน้ำกับห้องนั่งเล่นจะเห็นทะเลเต็มๆ อยู่นะ พูดง่ายๆ คือภายในแทบจะเหมือนกันทุกอย่าง แต่จากภายในมองออกมาต่างกันที่วิวบ้าง
สำหรับแขกที่มาพักพูลวิลล่าสามารถรีเควส Barbecue in villa ( จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ) โดยจะมีเชฟมาบริการอาหารถึงในวิลล่าเราเลยฮะ เหมาะมากครับกับใครที่ชอบทานอาหารแบบส่วนตัวบรรยากาศโรแมนติกมื้อดินเนอร์ โดยเชฟจะเสิร์ฟอาหารเป็นคอร์ส ของทะเลสดม๊ากก เนื้อดีม๊าก เรียกว่าของที่มาทำถือคุณภาพเลยฮะไม่ผิดหวังแน่นอน
SCENIC POOL VILLA
ห้องนี้จะมีขนาด 150 ตร.ม. พักได้ 2 คนสามารถเสริมเตียงเพิ่มได้ 1 ท่าน ห้องที่เป็นพูลวิลล่าแต่ราคาย่อมเยากว่า 2 ห้องที่ผ่านมาฮะ ใครงบไม่ถึง 2 ห้องแรก ลองดูห้องนี้ดูเนอะ
มาดูห้องในส่วนของโซนตึกกันบ้างเนอะ OCEAN VIEW JACUZZI DELUXE ขนาด 50 ตร.ม. พักได้ 2 คนและสามารถเสริมเตียงได้สูงสุด 1 ท่านเช่นกัน เอาจริงๆ ถึงจะอยู่บนตึกแต่ก็เป็นตึกที่อยู่ด้านบนสุดนะฮะ ตัวขนาดห้องโอเค วิวโอเค มีจากุชชี่ด้วย ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีเลยแหละ
JACUZZI DELUXE
ห้องนี้คือ type เริ่มต้นของที่นี่เลย ทุกอย่างการตกแต่งจะเหมือนห้อง type ด้านบนเลย แต่จะต่างกันที่ไม่มีวิวทะเลให้เห็นแค่นั้น
ใครบอกว่าไฮไลท์ของที่นี่คือมีเฉพาะห้องพักอย่างเดียว ไม่ใช่เลยจ้า สระว่ายน้ำส่วนกลางของที่นี่ก็คือไฮไลท์เหมือนกันนะ เอาตรงๆ สำหรับใครที่มาพักห้องแบบ pool villa วิวทะเลอยู่แล้วอาจจะไม่ค่อยว้าวไม่ค่อยอินอะไรเท่าไหร่ เพราะที่ห้องของตัวเองก็มี แต่คนที่ไม่ได้มาพักแบบพูลวิลล่านี่แหละฮะ สระส่วนกลางของที่นี่คือคำตอบที่ทดแทนพูลวิลล่าที่เราขาดหายไป 55 สระส่วนกลางของที่นี่จะมีอยู่ 2 จุดคือ ตรงใกล้หน้าหาดหรือใกล้ห้องอาหารไทยของรีสอร์ท กับอีกที่คืออยู่ตรงใกล้ห้องอาหารเช้าของโรงแรมนั่นเอง วิวดีไม่ดี ชอบไม่ชอบ ดูกันเอาเองละกันเนอะให้ภาพเล่าเรื่อง
ไหนๆ โฉบมาที่สระส่วนกลางแล้วก็แนะนำ SUN BAR / SUN POOL BAR /SUN DECK ที่อยู่ตรงสระส่วนกลางเลยแล้วกันเนอะ พูดง่ายๆ คือ จะมีทั้งบาร์และคาเฟ่อยู่รวมกันตรงจุดนี้เลยฮะ โดยจะเน้นเป็นอาหารทานเล่น เครื่องดื่ม แล้วที่เพิ่มเข้ามาคือ healthy menu เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ จากที่ได้ลอง ข้าวยำ ข้าวยำวูดู ส้มตำ บอกเลยว่าไม่ใช่สาย healthy ก็ต้องชอบฮะ คือทานแล้วอร่อยแล้วรู้สึกถึงความหอมและสดของตัวผักผลไม้มาก แล้วก็ไม่ใช่แค่เมนูอาหารอย่างเดียวนะ เครื่องดื่มก็เพื่อสุขภาพด้วยเช่นกัน เจออากาศร้อนๆ โดนคนละแก้วสองแก้วบอกเลยว่าสดชื่นสุดๆ
เปิดตั้งแต่ 8.00 น. – 18.00 น.
ห้องอาหารไทย THE HEIGHT
ห้องอาหารนี้ต้องจองโต๊ะล่วงหน้าจะดีที่สุด เนื่องจากที่นั่งมีจำนวนจำกัดถ้าไม่ได้จองก็ต้องไปเล่นเก้าอี้ดนตรีหน้างานไปเนอะ เริ่มจากวิวกันก่อนห้องอาหารนี้จะเป็นจุดทานดินเนอร์ชมวิวพระอาทิตย์ตกได้ดีเลย เพราะฉะนั้นจองโต๊ะเถอะจะได้ที่นั่งดีๆ มุมดีๆ จะได้ไม่พลาด มาถึงในส่วนของรสชาติอาหารที่นี่จะเน้นอาหารไทยเท่านั้น เพราะฉะนั้นลืมความรู้สึกเวลาไปทานอาหารไทยในโรงแรม 5 ดาวลักชัวรี่รสชาติจืดๆ กลางๆ ไปเลย ห้องอาหารนี้เรื่องรสชาติอาหารไทยคือที่สุด เหมือนคุณมาทานอาหารไทยพื้นบ้านรสชาติโลคอลร้านดังที่คุณพยายามตระเวณตามหาแทบบ้าเพื่อไปทาน แต่ถ้าคุณมาที่นี่คุณไม่ต้องไปตระเวณหาที่ไหนไกลแล้วฮะ
ห้องอาหารเปิด 17.00 น. – 22.30 น.
น้ำพริกกะปิกุ้งสด สายน้ำะพริกต้องสั่งครับถ้วยนี่
พล่ากุ้ง ตัวกุ้งทานไปรู้สึกเลยว่าเด้งสดมาก เผ็ดกำลังดี
หมูคั่วพริกแกง ทานกับข้าวสวยร้อนๆ คือแนะนำมากเมนูนี้
ใบเหลียงผัดไข่
ต้มส้มปลากระพง ถึงเครื่องแกงรสชาติจัดจ้านในย่านนี้มาก
ไข่เจียว เมนูง่ายๆ แต่ทานกี่ทีก็อร่อย ทานกับข้าวสวยร้อนๆ
STAR
Rooftop Bar ที่บรรยากาศดีม๊ากกกโดยเฉพาะช่วงเย็นพระอาทิตย์ตก คือคุณจะเห็นวิวทะเลสมุยแบบเปิดโล่งโอเพ่นมาก โอเพ่นแม้กระทั่งบนหัวไม่มีหลังคามาปิดหรือบดบังอันใดเลย แถมที่นั่งก็เหมาะมากจริงๆ กับการดินเนอร์ดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ กับบรรยากาศสุดแสนจะโรแมนติก ถามว่าผมได้ลองใช้บริการหรือยัง ตอบเลยว่ายัง 555 แต่แค่ผมไปถ่ายรูปผมยังชอบที่นี่เลยฮะ ถ่ายไปก็ลองนึกไปถ้าเรามานั่งชิวๆ บนนี้จะได้ความรู้สึกฟินระดับ 10 แค่ไหน แค่ถ่ายรูปเฉยๆ ยังฟินเลย
เปิด 17.00 น. – 23.00 น.
ห้องอาหาร MOON
คือห้องอาหารหลักที่เป็นแบบ all day อาหารเช้าเราก็มาทานที่ห้องอาหารนี้แหละ ถ้าไม่พูดถึงอาหารเช้าของที่นี่ก็คงจะไม่ได้เนอะ เพราะเป็นที่กล่าวขานสำหรับคนที่เคยมาสัมผัสที่นี่กันบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ” อาหารเช้าที่นี่ดีมากกก “ เอาตรงๆ จากที่เห็นรีวิวผ่านๆ มายอมรับว่าอาหารเช้าที่นี่ดร๊อปลงไปหน่อย แต่ก็ยังขอใช้คำเดิมว่าอาหารเช้าของที่นี่ดีม๊ากกก ดียังไงไปดูกัน
” มีสปาร์คกิ้งไวน์ให้ทานแบบไม่อั้นกันตั้งแต่เช้าเลยฮะ “
” มีเมนูอลาคาร์ทให้สั่งไม่อั้น คุณภาพไม่ธรรมดา แค่สั่งเมนูอลาคาร์ทก็ไม่ต้องตักแล้วมั้งไลน์บุฟเฟ่ต์ “
” โรงแรมไหนมีข้าวขาหมูในไลน์บุฟเฟ่ต์บ้าง ? ขาหมูทำเองสูตรพิเศษสูตรเฉพาะของรีสอร์ท “
นอกจากเมนูอลาคาร์ทแล้วอาหารในไลน์บุฟเฟ่ต์ก็ไม่ธรรมดาฮะ ถึงว่าทำไมคนพูดถึงรีสอร์ทนี้รองจากพูดถึงห้องพักแล้วก็ต้องมาเป็นเรื่องอาหารเช้า ถือว่าเป็นจุดเด่นของโรงแรมนี้อีกหนึ่งอย่าง
ลองมาดูอาหารมื้ออื่นของห้องอาหารนี้กันบ้าง เมนูที่แนะนำเลยคือ ” พิซซ่ากระเพรา “ ไม่น่าเชื่อเนอะว่าพิซซ่ากับกระเพราจะเข้ากันได้ขนาดนี้ เนื้อแป้งพิซซ่ากับความหอมของกระเพราและชีสคือที่สุด
ลาบหมูสับ รสชาติคือทำได้ตอบโจทย์คนไทยมากๆ หอมข้าวคั่วออกเผ็ดนิดๆ
สปาเกตตี้คาโบนาร่าเบค่อน อร่อยและเข้มข้นมากกกก
ต้มยำกุ้งน้ำใส เนื่องจากไม่ค่อยอินกับต้มยำกุ้งน้ำใสเป็นคนชอบน้ำข้นมากกว่าเลยไม่ค่อยอิน 555
ชาลิ้นจี่ ความหอมความขมของชา กับความหอมและหวานของลิ้นจี่แก้วนี้บอกเลยสดชื่นเหมะกับอากาศร้อนๆ ช่วงนี้
เราจะไปดูบริเวณอื่นๆ ของรีสอร์ทบ้างเนอะ
ตัวโรงแรมติดกับหาดมั้ย ? มีหาดให้เล่นด้วยนะฮะเหมือนหาดส่วนตัวเลย แต่จริงๆ เป็นหาดที่ใครเข้ามาเล่นได้หมดแหละ แต่ด้วยขนาดของหาดที่ไม่ใหญ่มากนักท่องเที่ยวเลยไปหาดดังๆ หาดใหญ่ๆ ซะส่วนใหญ่ ที่นี่ก็เลยเหมือนหาดส่วนตัวไปโดยปริยาย สำหรับแขกที่มาพักโรงแรมมีกิจกรรมพายเรือคายัค , ดำดูประการัง , paddle board ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
ตรงล็อบบี้่ก็มีจักรยานให้ยืมใช้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายเช่นกันฮะ
ฟิตเนส
สปา พนักงานบริการดีมากฮะ แถมนวดดีมากด้วย ใครมาพักผ่อนลองใช้บริการสปาที่นี่ดู
ทริปนี้เราเดินทางด้วยสายการบิน ” Bangkok Airways “ ยิ่งไปสมุยด้วยแล้วถ้าไม่คิดถึงสายการบินนี้ถือว่าพลาดมากฮะ เพราะเค้ามีสนามบินของเค้าเองเลยอยู่บนเกาะ ถือว่าสะดวกสบายมากๆ แล้วก็ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องบวกราคานู่นนี่นั่นเพราะที่นี่ราคาเบ็ดเสร็จไม่มีจ่ายเพิ่ม แถมก่อนบินมี ขนม เครื่องดื่ม ของทานเล่น เล้าจน์รับรองให้นั่งพัก เรียกได้ว่าประหยัดค่าอาหารบนสนามบินไปเยอะเลย แถมบนเครื่องยังมีอาหารเครื่องดื่มให้อีกด้วยนะ
สรุปปิดท้าย
อีกหนึ่งรีสอร์ทที่เก็บเอาไว้ในลิสต์เลยว่า ถ้าคุณวางแผนวันหยุดของคุณเพื่ออยากจะพักผ่อนแบบจริงจัง ที่นี่คือคำตอบของคุณแน่นอน และผมเชื่อว่าคุณจะไม่เสียดายเลยกับสิ่งที่คุณได้จ่ายไป เป็นโรงแรมที่มีความไพรเวทมากๆ โรงแรมหนึ่งเลย ตัวโรงแรมเต็มไปด้วยต้นไม้และธรรมชาติ ปละการออกแบบตกแต่งก็ผสมผสานเข้ากับธรรมชาติได้อย่างลงตัว
ที่นี่มีจุดแข็งอยู่ 3 อย่างคือ
1. ตัวรีสอร์ทที่อยู่บนที่สูง การออกแบบตัวรีสอร์ทที่ให้ความรู้สึกถึงความเป็นไพรเวทรีสอร์ทโดยเฉพาะพูลวิลล่า ที่รีสอร์ทแบบนี้ในเมืองไทยมีไม่ค่อยเยอะ
2. ห้องพัก ตัวห้องพักเค้าสร้างอยู่บนเขาห้องพักเนอะจะเห็นวิวทะเลแบบกว้างๆ และเต็มๆ
3. อาหารเช้าของที่นี่โคตะระดีงามจริงๆ ยกให้เป็นอาหารเช้าอันดับต้นๆ ที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยไปมา
4. บริการ ถ้าใครได้มาสัมผัสจะรู้สึกถึงการบริการของที่นี่ว่า การบริการแบบลักษ์ชัวรี่มันเป็นยังไง
5. อาหารไทย คือรสชาติบอกเลยว่าทำให้ผมอึ้ง ลืมความรู้สึกเดิมๆ ไปเลยว่าโรงแรม 5 ดาวลักษ์ชัวรี่จะต้องทำอาหารไทยรสชาติจืดๆ กลางๆ เข้าไว้ แต่สำหรับที่นี่ไม่ใช่ฮะ จัดเต็มจัดจ้านมาก
