sala lanna Chiang Mai
เคยคิดมั้ย แบบอยู่ดีๆมีแว๊บนึงเข้ามาในหัวว่า เอ้อ อยากไปเชียงใหม่อ่ะ ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์แบบชิวๆ แต่สำหรับผมไม่อยากไปเที่ยวไหนให้เหนื่อยให้วุ่นวายเท่าไหร่ อยากไปเชียงใหม่นะ แต่อยากไปนอนชิวๆ กับที่พักดีๆในเมืองเชียงใหม่ แล้วก็หาที่ไปเที่ยวไหนได้ด้วยการเดิน ไม่ต้องนั่งรถหรือขับรถอะไรมากมาย เพราะผมอยากพักผ่อนจริงๆ จนมาเจอโรงแรมนี้คือ ” sala lanna Chiang Mai “
โรงแรมนี้ค่อนข้างตอบโจทย์ผมจริงๆนะ เพราะฉะนั้นรีวิวนี้จะไม่ใช่แค่รีวิวโรงแรม แต่จะมีบอกตำแหน่งที่เที่ยว ที่ช๊อปปิ้ง ที่นั่งชิว ของอร่อยต่างๆ อยู่ในรีวิวนี้ด้วย ที่ใกล้ๆโรงแรม sala lanna Chiang Mai คือไม่ใช่แค่ใกล้ธรรมดา คือใกล้มาก อยู่ข้างๆ อยู่ตรงข้ามอย่างนี้ อีกทั้งร้านดังๆทั้งนั้น ไว้มาชมกันครับว่ามีที่ไหนบ้าง
สำหรับทริปนี้ผมบินกับสานการบิน Bangkok Airways เป็นการบินสายการบินนี้ครั้งแรกก็ประทับใจเลยนะ นอกจากเบาะที่นั่งบนเครื่องจะมีขนาดนั่งสบายแล้ว จุดเด่นและไม้ตายของเค้าก็คือ มีเล้าจ์รับรองผู้โดยสารนี่แหละ ของกิน เครื่องดื่มเพียบ สามารถทานได้ไม่อั้น เหมือนมีไลน์บุฟเฟ่ต์เล็กๆในสนามบินก่อนรอขึ้นเครื่อง คือดีใช่มั้ยหล่ะ และจุดขายของเค้าก็คือขนมไทยโดยเฉพาะข้าวต้มมัด ขนมต้มนี่แหละ ได้ใจผมไปเต็มๆ
สำหรับทำเลที่ตั้งของ sala lanna Chiang Mai ตั้งอยู่บนถนนเจริญราษฎร์ ติดฝั่งริมแม่น้ำปิง ตรงข้ามกาดหลวง กาดลำไย ใกล้กับวัดเกตการาม เห็นที่ผมขีดสีแดงๆไว้มั้ย นั่นแหละคือที่เราจะมาพูดถึงกันตอนหลังว่ามีอะไรกินอะไรเที่ยวบ้าง แต่ตอนนี้มาดูตัวโรงแรมกันก่อนครับ
sala lanna Chiang Mai เป็นโรงแรมในเครือ sala ที่เรื่องชื่อ ใครๆก็ต้องรู้จักกันครับ แต่สำหรับที่นี่จะเป็นโรงแรมที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก มีเพียง 15 ห้องเท่านั้น โดยจะเน้นไปที่ตัวห้องอาหารด้วยซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำปิงเลย ชื่อว่าห้องอาหาร On the Ping Riverfront eatery and bar
ที่ตั้งของโรงแรมอยู่ถนนเจริญราษฎร์ เป็นถนนที่คนไม่พลุกพล่านมากนัก เป็นถนนเล็กๆ ค่อนข้างสงบ เป็นถนนเก่าแก่ และยังมีตึกรามบ้านช่องที่ยังคงสภาพเดิมตั้งแต่อดีต ให้ความกรู้สึกมีกลิ่นอายอารยธรรมสมัยก่อน
สำหรับการตกแต่งของโรงแรมก็ค่อนข้างแน่นอนว่าจะต้องมีความเป็นเชียงใหม่และความเป็นล้านนา นอกจากที่เราจะได้มาพักโรงแรมเพื่อพักผ่อนแล้ว เรายังสามารถมาซีมซับวัฒนธรรมความเป็นล้านนาจากตัวโรงแรมได้อีกด้วยนะ
เข้ามาที่ส่วนของ Lobby เนื่องจากเป็นโรงแรมที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก พื้นที่ของ Lobby ก็จะมีขนาดเล็กไปด้วย เอาไว้เช็คอินและนั่งพักได้ระดับนึง
อย่างที่ได้กล่าวไว้ตอนแรกคือ เนื่องจากทำเลที่ตั้งของโรงแรมค่อนข้างดีเลยจริงๆ ติดกับแม่น้ำปิง โรงแรมจึงเน้นห้องอาหารเป็นหลัก เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะแขกที่มาพักกับทางโรงแรมหรือแขกที่ต้องการจะมานั่งทานอาหารอย่างเดียวเพื่อซึมซับบรรยากาศแม่น้ำปิงก็สามารถมาได้เช่นกัน งั้นเรามาเริ่มที่ห้องอาหารกันก่อนเลยดีกว่า ห้องอาหารนี้ชื่อว่า On the Ping Riverfront จะเห็นเลยว่า ตกแต่งเรียบง่าย สบายๆ แต่ดูแล้วรู้สึกถึงความเป็นเชียงใหม่ ความเป็นล้านนาจริงๆ
ห้องอาหารนี้เปิดบริการทุกวันครับ ตั้งแต่เวลา 11.00 น. – 22.00 น. แต่ถ้าใครมาวันศุกร์ – อาทิตย์ จะมีดนตรีแจ๊สเพราะๆด้วยนะ ตั้งแต่เวลา 19.00 น.เป็นต้นไป
ติดต่อจองโต๊ะได้ที่เบอร์ 053-242-588
เวลานั่งทานอาหารแล้วเรายังสามารถมองเห็นวิถีชีวิตของชาวเชียงใหม่ได้แบบไม่รู้เบื่อเลยจริงๆ
นอกจากด้านนอกแล้วยังมีห้องนั่งทานอาหารในแอร์ด้วย แต่คนไม่ค่อยนิยมกัน ส่วนมากมาถึงที่นี่ก็ต้องนั่งริมแม่น้ำปิงรับลมเย็นๆ ดื่มด่ำบรรยากาศสิ
บอกเลยว่าตอนกลางวันว่าน่านั่งแล้ว กลางคืนนี้กินขาดเลย ตอนที่ผมไปอากาศเย็นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดพอเข้าสู่ช่วงเย็น ยิ่งทำให้บรรยากาศดีเพิ่มขึ้นไปอีก
เรามาดูเมนูอาหารกันครับว่าหน้าตาเป็นไง น่าทานขนาดไหน
ขนมปังเซ็ตนี้จะให้มาทุกครั้งที่มานั่งทานอาหารที่นี่ แม้กระทั่งอาหารเช้าของโรงแรมก็จะมีเจ้าเซ็ตนี้แหละ มาเป็นออเดิร์ฟก่อน
ออเดิร์ฟเมือง
จะเป็นน้ำพริกหนุ่มไว้ทานกับแคปหมู ผักต่างๆ หมูยอ จริงๆจะต้องมีไส้อั่วด้วย แต่พอดีของหมดเลยกลายมาเป็นไส้กรอกแหนมแทน
ยำมะม่วงปูนิ่ม
บอกเลยว่าเมนูนี้อร่อย ปูนิ่มเป็นตัวๆคลุกเคล้ากับยำมะม่วงที่จัดจ้าน
เนื้อตุ๋นผัดกระเพรา
ตัวชิ้นเนื้อนุ่มมากไม่เหนียว เกิดจากการตุ๋นเนื้อไว้นานพอควร รสชาติของเนื้อเลยออกกลมกล่อม มีกลิ่นฉุนของพริกและใบกระเพรา ต้องทานคู่กับข้าวสวยช้อนโตๆต่อเนื้อหนึ่งชิ้น ฟินแน่นอน
แกงเทโพคอหมูย่าง
อร่อยใช้ได้เลยทานกับข้าวสวยร้อนๆ
ข้าวผัดล้านนา
จะเป็นข้าวผัดที่ใส่ทั้งหมูยอและไส้อั่ว ไส่ไข่ดาว ทานกับแคปหมู
กระดูกหมูตุ๋มยาจีน
รู้สึกว่าที่นี่จะทำเมนูตุ๋นๆได้โดนมากๆ เมนูนี้ก็โดนเช่นกัน กลมกล่อม หมูนุ่มมาก
ก๊วยเตี๋ยวลุยสวน
ที่น้ำจิ้มมีใส่วาซาบิผสมลงไปด้วย ทานแล้วจะฉุนและเผ็ดวาซาบิระดับนึง
ปลานึ่งน้ำพริกหนุ่ม
เป็นเมนูที่เข้ากันมากระหว่างปลากับน้ำพริกหนุ่ม
นอกจากอาหารไทยแบบทางเหนือแล้ว อาหารแบบตะวันตกก็มี สเต๊กเนื้อ ตัวเนื้อค่อนข้างนุ่มไม่เหนียวเลย
ปลาหิมะกับซอสเห็ด
อันนี้อร่อยจริงเนื้อปลาสด เข้ากับน้ำซอสเห็ดมากครับเวลาทาน
ฮันนี่โทส
เมนูนี้ไม่ได้ลองครับ เลยบอกรสชาติไม่ได้แฮะ
มาดูส่วนของห้องพักกันต่อดีกว่า ที่มีทั้งหมด 15 ห้องนั้นจะแบ่งออกมาเป็น 4 type นี่คือแบบ room type แรกที่มีเพียง 2 ห้องเท่านั้น คือห้อง Standard จะเป็นห้องค่อนข้างธรรมดาทั่วไป
riverview superior balcony
เป็นห้องที่มีขนาดไม่ใหญ่ครับ แต่มีอ่างแช่และระเบียงห้องพร้อมกับเก้าอี้โยก ไว้นั่งชมวิวรับอากาศดีๆของเมืองเชียงใหม่
Deluxe Suite
เป็นห้องขนาดใหญ่สุดครับ ที่แบ่งออกเป็นส่วนห้องนั่งเล่น ห้องนอนและห้องน้ำ ไว้รวมกัน
riverview deluxe balcony
เป็นห้องที่ผมแนะนำเลย ห้องมีขนาดกว้างขวางพอประมาณ จัดสัดส่วนห้องน้ำ ห้องนอนได้อย่างลงตัว และยังมีระเบียงไว้นั่งสบายๆ ไว้ดูวิวอีกด้วย สามารถมองเห็นตลาดวโรรสที่อยู่ตรงข้ามและเห็นวิวของแม่น้ำปิงได้
ข้าวของเครื่องใช้ภายในห้องน้ำก็มีให้ครบครับ
แม้กระทั่งเกลือสปาดีๆ ก็มีให้ใช้
ชุดชาเอาไว้ดื่มตอนเช้าๆดูพระอาทิตย์ขึ้นกับบรรยากาศอากาศดีๆของเชียงใหม่ บนระเบียงห้อง
สำหรับก่อนนอนจะมีพนักงานเอาน้ำสมุนไพรมาให้ดื่มเพื่อสุขภาพครับ บางคืนเป็นน้ำใบเตยหอม บางคืนเป็นน้ำมะตูม ตอนผมไปศาลา ภูเก็ต ก็มีแบบนี้เหมือนกัน
Rooftop Bar
จะมีสระว่ายน้ำอยู่ด้านบนนี้ด้วย ค่อนข้างจะมีความเป็นส่วนตัวพอสมควร เหมาะกับการมาแช่ในสระพร้อมกับดื่มอะไรเย็นๆ ฟังเพลงชิวๆ พร้อมกับดูวิวของดอยสุเทพและวิวเมืองเชียงใหม่ยามพระอาทิตย์อัสดง
การตกแต่งภายในโรงแรมส่วนมากจะใช้ไม้เป็นหลัก และมีรายละเอียดทั่วทั้งโรงแรมให้กลิ่นอายความเป็นล้านนา
สำหรับอาหารเช้าของที่นี่ไม่ได้เป็นไลน์บุฟเฟ่ต์เหมือนทั่วไป แต่จะเป็นสั่งแบบอลาคาร์ท 1 คนสั่งได้ 1 เซ็ตเท่านั้น ที่ห้องอาหาร On the Ping นี่แหละ เปิดตั้งแต่ 7.00 น. – 11.00 น. แขกที่ไม่ได้พักที่นี้ก็มาใช้บริการได้เหมือนกันนะ ถ้าถูกใจเมนูอาหารเช้าของที่นี่ก็เชิญมาได้เลยครับ
ล้านนาเซ็ต
เป็นข้าวเหนียวหมูปิ้ง กับไข่ต้มยางมะตูม กินกับผักสดและน้ำพริกตาแดง
ศาลาเซ็ต
เซ็ตนี้ดูจะเว่อร์วัง เห็นแบบนี้ อิ่มเหมือนกันนะ
เซ็ตนี้จะคล้ายๆเซ็ตด้านบน แต่เปลี่ยนเป็นออมเล็ตแทน
โจ๊กหมู
ลืมบอกไปว่า เซ็ตขนมปังจะมีให้กับทุกโต๊ะนะครับ แนะนำให้ลองครัวซองของที่นี่ อร่อยดี
เอาหล่ะ เรามาเริ่มเดินดูกันดีกว่าว่า มีอะไรใกล้ๆโรงแรม sala lanna Chiang Mai อย่างแรกเลยทุกคนคงรู้จักตลาดวโรรสกันใช่มั้ย เป็นตลาดที่ใครมาต้องแวะช๊อป โดยเฉพาะน้ำพริก แคปหมู ไส้อั่ว ซึ่งอยู่ตรงข้ามโรงแรมเลย สามารถเดินข้ามสะพานไปได้ ซึ่งสะพานจะมีสร้างขึ้นมาใหม่ใกล้ๆกับโรงแรมใน GPS ยังไม่มีเพราะยังไม่ได้อัพเดท
ที่แรกเลย อยู่ข้างๆโรงแรมเลยอ่ะ ชื่อ Vieng Joom On Teahouse จะเป็นเบเกอรี่ ชา พวก afternoon tea เห็นเค้าบอกว่าชาของที่นี่ดีงาม แต่ผมไม่ได้เข้าไปลอง ใครเข้าไปลองแล้วมาบอกกันบ้างนะ
Woo Cafe
อยู่ตรงข้ามโรงแรมเลยจ้า ข้านไปไม่ถึง 10 ก้าวถึงเลย ร้านนี้จะเน้นเครื่องดื่ม + เบเกอรี่ รสชาติโอเค แต่จะเน้นความใหญ่และอลังการ ใครชอบความคุ้มต้องที่นี่เลย แถมร้านยังตกแต่งด้วยต้นไม้นานาชนิด มีมุมถ่ายรูปเซลฟี้เยอะ น่านั่งมากร้านนี้
บานอฟฟี่ ใหญ่มาก 120 บาทเอง
กาแฟนแก้วละ 100 บาท จะเรียกแก้วก็ไม่ถูกคือเหมือนมาเป็นถังขนาดย่อมก็ว่าได้ ผมชอบดื่มกาแฟนะ แต่เจอแก้วนี้ยอมอ่ะ ไม่หมดจริงๆ น่าจะสำหรับ 2 คนกำลังดี
ร้านลุงขจรวัดเกต
ออกจากโรงแรมมาทางซ้ายประมาณ ไม่เกิน 200 เมตรร้านจะอยู่ซ้ายมือ ขายข้าวเกรียบอ่อน สาคู เจ้านี้อร่อยจริง กล่องละ 20 บาท ข้อเสียของร้านนี้คือ ไม่มีที่จอดรถ ไม่มีที่นั่งกินต้องซื้อกลับบ้านเท่านั้น ข้อดีคือ เราพักโรงแรม sala lanna Chiang Mai เราเดินมาซื้อได้สบายๆ 555 ถูกและดียังมีในโลก แต่ว่าต้องพยายามอย่าไปตอนบ่ายแก่ๆนะ ของหมดจ้า
บ้านเปี่ยมสุข
เดินเลยจากร้านลุงขจรมาประมาณไม่เกิน 100 เมตรได้ ร้านนี้จุดขายของเค้าคือเค้กมะพร้าวครับ โดยเฉพาะพายมะพร้าวต้องมาลองอร่อยมากจริงๆ
วัดเกตการาม ( เป็นวัดพระธาตุประจำปีของคนเกิดปีจอ )
อยู่ห่างจากโรงแรมประมาณ 100 เมตร วัดนี้ตั้งอยู่บนถนนเจริญราษฎร์ ตำบลวัดเกตุ อำเภอเมืองเชียงใหม่ เดิมชื่อว่า “วัดสระเกษ” สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1971 ในรัชสมัยพระเจ้าสามฝั่งแกน พระองค์ทรงโปรดให้พระยาเมือง พระยาคำ และพระยาลือ สร้างวัดแห่งนี้ขึ้น ชื่อ “วัดเกตการาม” มาจากคำว่า “เกศ” ซึ่งเป็นชื่อของพระธาตุเกศแก้วจุฬามณี บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า
สำหรับวัดนี้มีความเก่าแก่และประวัติอันยาวนาน ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากพม่า สิ่งที่ไม่ควรพลาดนอกจากเข้าไปไหว้สักการะ ดูความสวยงาม และสถาปัตยกรรมล้านนาสมัยอดีตแล้ว นั่นก็คือพิพิธภัณฑ์ในวัดเกตการาม แนะนำเลยครับว่าสมควรและเหมาะกับการเข้าไปชมมากๆ มีทั้งของเก่าประวัติความเป็นมาสมัยอดีตที่หาดูไม่ได้ง่ายๆ ถ้าคุณเป็นคนชอบดูประวัติศาสตร์หรือของเก่า คุณสามารถอยู่ในนี้ได้ทั้งวันเลยแหละ ที่สำคัญ ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชมครับ